นายแจ็คกี้ ชาง ปรธานบริหาร บมจ.เดลต้า อิเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่บริษัททำกำไรเติบโตเป็นกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไร 8.3 พันล้านบาท และยังจะเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว ตามการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในกลุ่มสินค้าหลักไม่ว่าจะเป็น Data center, AI, ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และธุรกิจ Solutions ของทั้งภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้ดี โดยเร่งรัดการใช้วัตถุดิบ และร่วมมือกับกับผู้ขายเพื่อบริหารจัดการกับวัตถุดิบ
แม้ว่ายอดขายรถยนต์ EV อาจจะได้รับผลกระทบจากตลาดในสหรัฐอ่อนตัวลงในช่วงที่ผ่านมา และความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งในสหรัฐ ขณะที่ตลาดยุโรปที่ถือเป็น Growth Driver สำคัญยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในครึ่งปีหลังนี้ โดยบริษัทเตรียมออกสินค้าใหม่เพื่อรองรับกลุ่มตลาดระดับกลาง-บน รวมถึงอยู่ระหว่างออกแบบ new model เพื่อกระตุ้นดีมานด์หนุนการฟื้นตัวของกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ EV
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ายังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ทะเลแดงและสถานการณ์ความขัดแย่งด้านภูมิรัฐศาสตร์อยู่บ้าง ทำให้บริษัทยังไม่สามารถคาดการณ์ในอนาคตได้ไกลมากนัก
"การเติบโตของสินค้าหลัก เราคาดว่าจะยังเติบโตต่อเนื่องไปในปีหน้า โดยเฉพาะ AI ใน Data Center ส่วน Data Center ทั่วไป คาดรักษาระดับการเติบโตในระดับปานกลางได้" นายแจ็คกี้ กล่าว
สำหรับภาพแนวโน้มอุตสาหกรรมในระยะกลางถึงยาว มองเป็น Market Trend จากทั่วโลกยังร่วมกันต่อสู้กับภาวะโลกร้อน ซึ่ง EV ก็ยังเป็นหนึ่งใน Solutions ที่ดีที่จะเข้ามาตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด และลดปัญหาทางสิ่งแวดล้อม โดยระยะสั้นอาจเห็นความผันผวนบ้างในตลาด EV แต่กลาง-ยาวยังมีมุมมองเชิงบวก
ขณะที่ธุรกิจ Data Center นอกจากการใช้ AI ในดาต้าเซนเตอร์ ยังมองการขยายไปหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันก็เริ่มเห็นภาคผลิตและภาคอุตสาหกรรม เข้ามาใช้ AI มากขึ้น มองเป็นแนวโน้มเชิงบวกในระยะยาว