นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 มีรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 5,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับงวดที่ผ่านมา (QoQ) และมีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 40 ล้านบาท เติบโต 199% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สนับสนุนภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 10,167 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและมีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 160 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 70.85 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน สะท้อนการฟื้นตัวชัดเจนของบริษัทฯ รับปัจจัยบวกจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล มีรายได้และกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จากปริมาณขายที่ปรับเพิ่มขึ้นตามแผนบริหารการขาย
นอกจากนี้ ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายไบโอดีเซล (B100) มีรายได้และกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากที่บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เข้าซื้อ บมจ.บางจาก ศรีราชา (BSRC) ในไตรมาส 2 ปีนี้
บริษัทยังได้รับการคัดเลือกเป็นหลักทรัพย์ที่ติดกลุ่ม ESG Emerging ปี 67 และได้เข้าอยู่ในทำเนียบ ESG100 เป็นครั้งแรก จากการประเมินของสถาบันไทยพัฒน์ สะท้อนการดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักความยั่งยืน พร้อมทั้ง ให้ความสำคัญตลอดห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ ได้ประกาศความสำเร็จของ BBGI
นอกจากนี้ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้อนุมัติออกบัตรส่งเสริมการลงทุนประเภท 1.6 กิจการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ให้กับบริษัท บีบีจีไอ เฟิร์มบ็อกซ์ ไบโอ จำกัด (BBFB) โดยได้รับสิทธิประโยชน์ในระดับ A1+ ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 10 ปี ไม่กำหนดวงเงินภาษีเงินได้นิติบุคคลที่จะได้รับการยกเว้น รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ สำหรับโครงการจัดตั้งโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงโดยใช้เทคโนโลยีการหมักที่แม่นยำ (Precision Fermentation) เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง เช่น เซลลูโลซิกเอนไซม์ (Cellulosic Enzyme) สำหรับใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งมีความต้องการจากลูกค้าในต่างประเทศ
ในด้านฐานะการเงินที่มีความแข็งแกร่งของ BBGI ได้ชำระคืนหุ้นกู้อายุ 3 ปีที่ครบกำหนด จำนวน 800 ล้านบาททั้งจำนวน รวมทั้งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการซื้อหุ้นบริษัท บีบีจีไอ ไบโอดีเซล จำกัด จำนวน 0.84 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 30% ของทุนจดทะเบียนซึ่งชำระเต็มมูลค่าแล้ว คาดว่าจะดำเนินการซื้อขายหุ้นเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสที่ 4/67 และเมื่อเข้าทำรายการเสร็จสิ้นแล้ว บริษัทฯ จะถือหุ้นใน BBGI-BI ในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน
สำหรับภาพรวมธุรกิจปี 67 มั่นใจจะเป็นปีที่ BBGI สามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ จากธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตจากปีก่อนมากกว่า 30% พุ่งทำสถิติสูงสุด (All Time High) ด้านธุรกิจใหม่ โครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) และ โรงงานเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง (CDMO) อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ต้นปี 68 ตามแผน