นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9) กล่าวว่า ผลประกอบการครึ่งแรกของปี 67 บริษัทมีกำไรสุทธิหลัก 298 ล้านบาท เติบโต 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำกำไรสุทธิไว้ที่ 230 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,178 ล้านบาท เติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำรายได้รวมไว้ที่ 1,984 ล้านบาท
ไตรมาส 2/67 บริษัทสามารถสร้างการเติบโตสอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้ แม้จะเป็นช่วง Low Season มีสาเหตุหลักมาจากการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยไทยและผู้ป่วยต่างชาติ โดยเข้ามารักษาเพิ่มขึ้นทั้งในรูปแบบ OPD และ IPD (ผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก) อีกทั้งยังมีการเติบโตอย่างโดดเด่นของการใช้บริการในสถาบันโรคไตฯ สถาบันหัวใจฯ ศูนย์ศัลยกรรม ศูนย์กระดูกและข้อ ซึ่งตรงกับกลยุทธ์ และจุดแข็งของบริษัทที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากซับซ้อน และมีบริการที่รองรับการก้าวสู่สังคมสูงวัย
โดยบริษัทสามารถบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายด้านการขายและการบริหารเพิ่มขึ้นเพื่อทำการตลาดเชิงรุกในกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ อาทิ การทำป้ายโฆษณาบิลบอร์ดให้มองเห็นในพื้นที่สาธารณะ และการทำเว็บไซต์ออนไลน์สำหรับชาวต่างชาติ แต่บริษัทก็สามารถทำ อัตรากำไร 13.7% ในครึ่งปีแรก เติบโต 30% จากอัตรากำไร 11.6% ของปีก่อน
บริษัทยังมองเห็นแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 3/67 จากการก้าวเข้าสู่ช่วง High season ทำให้มีจำนวนเคสไข้หวัดที่มาจากฤดูฝนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเคสผู้ป่วยกลุ่มเด็กนักเรียนหลังมีการเปิดเทอม นอกจากนี้ เมื่อกลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้ป่วยชาวอาหรับเข้ามาใช้บริการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้เข้ามารักษาโรคยากซับซ้อน เช่น โรคไตวาย โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน และแผลเบาหวานที่เท้า และอื่นๆ ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีหลังทางบริษัทได้มุ่งเน้นทำการตลาดเชิงรุกผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพหลายแห่ง อีกทั้งยังพบว่ามีผู้ป่วยชาวจีนที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย (Expat) เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น จากกลยุทธ์การทำแบรนด์ให้มีการรับรู้ว่าโรงพยาบาลพระรามเก้ามีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากซับซ้อนในราคาที่คุ้มค่า ภายใต้คุณภาพและการบริการระดับสากล
"ครึ่งปีหลัง เรายังคงดำเนินการพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรดเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในสถาบันหัวใจและหลอดเลือด การรักษาโรคลิ้นหัวใจโดยไม่ต้องผ่าตัด และมีประสิทธิภาพที่แม่นยำขึ้น การร่วมมือกับบริษัท แคริว่า (ประเทศไทย) จำกัด และศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช เปิดให้บริการตรวจหาความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ด้วยเทคโนโลยีถอดรหัสพันธุกรรม 53 ยีน ครอบคลุมการตรวจหาความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ 12 ชนิด รวมถึงการขอใบอนุญาตในการรักษาแบบฝังเข็ม เพื่อเจาะตลาดผู้ป่วยชาวจีน คาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ประมาณช่วงไตรมาส 4/67" น.พ. เสถียร กล่าว