HILITE: TEKA พุ่ง 9.7% ตอบรับ Q2/67 กำไรนิวไฮพุ่งกว่า 127% หนุนครึ่งปีแรกท็อปฟอร์ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 8, 2024 11:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

TEKA พุ่ง 5.09% มาที่ 2.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 6.19 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.12 น. จากราคาเปิด 2.30 บาท ราคาสูงสุด 2.50 บาท ราคาต่ำสุด 2.24 บาท

นายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีฆาก่อสร้าง (TEKA) กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทในงวดไตรมาส 2/67 กำไรสุทธิ 46.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.40% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 20.49 ล้านบาท

สำหรับกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 88.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 49.39% และมีสัดส่วนกำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/67 และไตรมาส 2/66 เทียบกับรายได้จากการก่อสร้างอยู่ที่ 20.37% และ 12.78% ตามลำดับ หรือคิดเป็นพิ่มขึ้น 9.22% เนื่องจากบริษัทบริหารจัดการควบคุมต้นทุนวัสดุหลักได้ดีขึ้น เช่น ค่าเหล็ก ค่าคอนกรีต เป็นต้น รวมถึงปรับลดต้นทุนการดำเนินงานอื่นๆ อาทิ เช่น ปรับลดงบการรับประกันผลงานลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้เติบโตได้อย่างดีเยี่ยม

ขณะที่รายได้จากการก่อสร้าง 432.30 ล้านบาท ลดลง 6.24% จากงวดเดียวกันของปี 66 มีรายได้อยู่ที่ 461.05 ล้านบาท สาเหตุมาจากโครงการของบริษัทที่ดำเนินงานอยู่ในช่วงส่งมอบงานช่วงสุดท้ายเป็นส่วนใหญ่ โดยโครงสร้างรายได้ทั้งหมดมาจากงานภาคเอกชน คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในครึ่งปีหลังตามความสำเร็จของงาน และการประมูลงานใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้น

จากความสำเร็จของผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 และไตรมาส 2/67 สนับสนุนให้งวด 6 เดือนแรกของปี 67 TEKA มีกำไรสุทธิ 88.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141.58% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 36.72 ล้านบาท ขณะที่ กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 163.50 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.33% สูงกว่าช่วง 6 เดือนแรกของปีก่อนอยู่ที่ 51.14 ล้านบาท มาจากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น และมีรายได้จากการก่อสร้างจำนวน 1,001.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.41% จากงวดเดียวกันของปี 66 มีรายได้อยู่ที่ 845.58 ล้านบาท ตอกย้ำภาพรวมธุรกิจของบริษัทมีทิศทางสดใส เดินหน้าสู่เป้าหมายรายได้ทั้งปีเติบโต 5-10% ตามแผน ขณะที่รักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit) ที่ 10-15% สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/67 บริษัทมี Backlog อยู่ที่ราว 3,160 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้รายได้ในช่วงปี 67-68 แบ่งเป็นรับรู้รายได้ช่วงครึ่งปีหลัง 1,200 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไป และยังมีการมุ่งหวังจะเพิ่ม Backlog งานก่อสร้างใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีงานที่ยื่นประมูลกว่าหมื่นล้านบาทคาดว่าได้รับงานใหม่เข้ามาในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 2,600 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีแรกได้รับงานแล้ว 1,600 ล้านบาท คาดว่าครึ่งปีหลังอีก 1,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนรายได้ปี 67 เติบโตตามแผนที่วางไว้

กลยุทธ์ที่บริษัทมุ่งเน้นพัฒนาเพื่อรักษาและเสริมสร้างความไว้วางใจ จะมุ่งเน้น 3 ส่วน ได้แก่ Business Growth โดยรักษาฐานลูกค้าเดิม หาตลาดงานก่อสร้างใหม่ๆ ลงทุนขยายธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต และบริหารความเสี่ยงเพื่อรับมือภาวะเศรษฐกิจ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ในด้าน Smart People มีการปรับโครงสร้างองค์กร มุ่งพัฒนาบุคลากร และบริหารกำลังพลให้มีประสิทธิภาพ และ Innovative Culture พร้อมสร้างและพัฒนาองค์กรด้วยนวัตกรรม ตอกย้ำผู้นำด้านการก่อสร้างอาคารชั้นนำของประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ