นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในครึ่งแรกปี 67 ว่า แม้ต้องเผชิญกับ Crack Spread ของทุกผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดโลก และโรงกลั่นพระโขนงมีการปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นตามวาระ บางจากฯ สามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 293,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 66 คิดเป็น EBITDA รวม 26,072 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จากช่วงเดียวกันของปี 66 และมีกำไรสำหรับงวดส่วนของบริษัทใหญ่ 4,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 66 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.91 บาท
และจากการเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจผ่านการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพสูง และการสร้าง Synergy ระหว่างกันภายในกลุ่มบริษัทบางจาก ส่งผลให้รับรู้ Synergy จากผลการดำเนินงานต่อเนื่อง มียอดสะสมกว่า 3,000 ล้านบาทในครึ่งแรกของปี 67 บรรลุเป้าหมาย EBITDA Synergy ไม่น้อยกว่า 2,500 ล้านบาทในปีนี้แล้ว ซึ่งบริษัทมุ่งมั่นจะพัฒนาต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย EBITDA Synergy 3,000 ล้านบาทต่อปีในปีต่อ ๆ ไปด้วย
ในช่วงที่เหลือของปี 67 คาดว่า ค่าการกลั่นมีแนวโน้มเข้าสู่ระดับที่มีเสถียรภาพมากขึ้นจากอุปสงค์ที่จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งบริษัทฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจะบริหารจัดการอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างรากฐานที่มีเสถียรภาพและมั่นคงเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
ผลการดำเนินงานที่สำคัญในครึ่งแรกของปี 67 ของแต่ละกลุ่มธุรกิจ ดังนี้
กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน (โรงกลั่นพระโขนงและโรงกลั่นศรีราชา) มี EBITDA 6,452 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันปี 66 ได้รับแรงหนุนหลักจากผลการดำเนินงานของ BSRC ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.66 อัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอยู่ที่ 251,000 บาร์เรลต่อวัน
โดยโรงกลั่นศรีราชามีอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นและสร้างสถิติใหม่ต่อเนื่องได้ช่วยชดเชยอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยที่ลดลงของโรงกลั่นพระโขนงที่มีการปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นตามวาระ (Turnaround Maintenance) เป็นระยะเวลา 27 วัน (ระหว่างวันที่ 7 พ.ค. - 2 มิ.ย.67) นอกจากนี้ยังมี Inventory Gain 438 ล้านบาท (รวมการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ (NRV)) ช่วยชดเชยปัจจัยกดดันจาก Operating GRM ที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2566 จาก Crack Spread ของทุกผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดโลกจากอุปสงค์อ่อนแอจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
กลุ่มธุรกิจการตลาด มี EBITDA 4,095 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% จากช่วงเดียวกันปี 66 มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันรวมทุกช่องทางสร้างสถิติใหม่ที่ 6,919 ล้านลิตร เติบโตมากกว่า 100% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ตามการขยายตัวของเครือข่ายสถานีบริการและฐานลูกค้าอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมมากขึ้นภายหลังการรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มครึ่งปีของ BSRC ผสานกับการดำเนินแผนกลยุทธ์การตลาดให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ช่วยผลักดันยอดจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการรวม 2,214 แห่งทั่วประเทศ
กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด โดย บมจ.บีซีพีจี (BCPG) มี EBITDA 2,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเดียวกันปี 66 โดยปัจจัยหลักมาจากการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้น จากการรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มครึ่งปีจากการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ 4 แห่งในสหรัฐฯ ด้วยกำลังการผลิตรวม 857 เมกะวัตต์ และการลงทุนในคลังน้ำมัน ท่าเทียบเรือ และท่อขนส่งน้ำมันในจังหวัดเพชรบุรี ช่วยบรรเทาผลกระทบการสิ้นสุด Adder ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยได้ทั้งหมด นอกจากนี้มีการรับรู้กำไรจากการจำหน่ายไปซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 9 โครงการ
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ โดย บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) มี EBITDA 493 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% จากช่วงเดียวกันปี 66 ได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของเอทานอลและไบโอดีเซล สอดคล้องกับการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจการตลาดกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มี EBITDA รวม 13,074 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันปี 66 โดยปริมาณการผลิตและจำหน่ายปรับเพิ่มขึ้น จากการรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มครึ่งปีจากแหล่งปิโตรเลียม Statfjord ที่ได้รับโอนสิทธิ์เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 แหล่งผลิต Brage สามารถเพิ่มกำลังการผลิตและแหล่งผลิต Hasselmus ที่เริ่ม COD ในเดือนต.ค.66