หลัง บมจ.จีเอเบิล (GABLE) เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เมื่อ 9 พ.ค. 66 ได้เดินหน้าตามแผนธุรกิจที่จะลงทุนในเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม หรือ Business Application เพื่อขยายศักยภาพในการให้บริการเพื่อการเติบโตของกลุ่มบริษัท จากปัจจุบันบริษัทมีประสบการณ์ด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลยาวนาน 33 ปี เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายการเป็น TECH ENABLER
และวันนี้เทรนด์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กำลังเข้ามา ช่วยจุดประกายให้หลายธุรกิจหลายองค์กรเริ่มให้ความสนใจที่จะนำ AI มาใช้ เป็นโอกาสที่ GABLE จะเข้าถึงความต้องการของลูกค้าองค์กร
นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GABLE กล่าวว่า บริษัทได้เข้าไปช่วยหลายๆ องค์กรเตรียมความพร้อมเพื่อเชื่อมต่อกับเทคโนโลยี AI ทั้ง ดาต้า ระบบความปลอดภัย และ บุคลากร เพื่อมุ่งลดต้นทุนเพิ่มกำไร ซึ่งภาคธุรกิจส่วนใหญ่ยังไม่มีความพร้อมรองรับเทคโนโลยี AI
อย่างไรก็ดี ความตื่นตัวเรื่องเทคโนโลยี AI เป็นตัวกระตุ้นความต้องการด้านไอทีขององค์กรมากขึ้น และพบว่า Business Application สามารถตอบโจทย์ให้กับองค์กรในหลายๆ ส่วนงาน ทำให้มีความต้องการนำไอทีมาใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของการทำงานให้ดียิ่งขึ้น เช่น ฝ่ายบัญชีและการเงิน ฝ่ายการตลาด เป็นต้น
ล่าสุด เมื่อ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา GABLE ประกาศดีลเข้าซื้อ บริษัท ราวด์ ทู โซลูชั่นส์ จำกัด (ราวด์ ทู) 75% ด้วยวงเงินลงทุน 330 ล้านบาท ทั้งนี้ ราวด์ ทู ประกอบธุรกิจหลักในการให้คำปรึกษา วางแผน และการติดตั้งระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) และระบบ Customer Relationship Management (CRM)
และ ก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือน มี.ค. 67 บริษัทได้ร่วมมือครั้งสำคัญกับ เวิร์กเดย์ (Workday) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีเพื่อการบริหารทรัพยากรบุคคลครบวงจรรายใหญ่ระดับโลกที่มีผู้ใช้บริการกว่า 65 ล้านคนทั่วโลก อีกทั้งบริษัทได้ลงทุนด้านเทคโนโลยี DevSecOps ผ่านบริษัทในเครือ คือ บริษัท เบลนเดต้า จะช่วยเพิ่มศักยภาพและขยายขอบเขตการให้บริการด้าน Big Data ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้โอกาสที่ Big Data และ AI เข้ามามีบทบาทต่อโลกธุรกิจ
ทั้งนี้ การต่อยอดการให้บริการด้านไอทีโซลูชันของบริษัท จะทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งและครบวงจรมากยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าให้เติบโตขึ้น
นายชัยยุทธ กล่าวว่า บริษัทยังมีดีลในมืออีกหลายดีล และจะโฟกัสไปที่ Business Application ที่เกี่ยวกับ ERP และ CRM ที่หลายๆ องค์กรมีความต้องการใช้งานเพิ่มมากขึ้น โดยที่ผ่านมาความต้องการเติบโตสูงขึ้นมามาโดยตลอด ดังนั้น มองว่าการต่อยอดครั้งนี้จะเข้ามาช่วยบริษัทให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และเชื่อว่าจะทำให้ฐานบริษัทเติบโตอย่างมั่นคงแข็งแรง
สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ บริษัทมั่นใจทำได้ใกล้เคียงเป้าหมาย และทั้งปี 67 ก็เชื่อว่าจะเดินได้ตามเป้าที่ยอดขายวางไว้ 4-5 พันล้านบาท และอาจทะลุเป้าได้หลังจากได้ดีลใหม่มาเสริมทัพ
https://youtu.be/Xpc4LuQ6Mag