นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2/67 เท่ากับ 340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156% และงวด 6 เดือนแรกของปี 67 กำไร 576 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา
เนื่องจากในครึ่งปีแรกไม่มีรายการผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากสินทรัพย์ทางการเงินอื่น และไม่มีส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม สะท้อนการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) และ บมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC) ที่ไม่มีการตั้งสำรองก้อนใหญ่แล้ว ขณะที่ ธุรกิจใหม่เทคโนโลยี Locked Phone สามารถสร้างการเติบโตได้ตามที่วางไว้ ภายใต้การควบคุมความเสี่ยงที่รัดกุม
สำหรับรายได้รวมประจำไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 3,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 17.1 ล้านบาท และงวด 6 เดือน อยู่ที่ 6,857 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 214.2 ล้านบาท หรือ 3.2% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นแม้อยู่ภายใต้เศรษฐกิจชะลอตัวที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสินค้าเทคโนโลยี ภายใต้ บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด และธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ ภายใต้การดำเนินงานของ บมจ.เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ซึ่งบริษัทยังคงมองทิศทางครึ่งปีหลังจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก โดย JMT ยังคงตั้งเป้าหมายในการจัดเก็บกระแสเงินสดให้เพิ่มขึ้น ด้วยการติดตามลูกค้าอย่างใกล้ชิด และเพิ่มกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งคาดว่า ECL จะทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 และ 4 นี้ และคาดจะเห็นผลยอดจัดเก็บกลับเข้ามาอย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การดำเนินงานของ บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) ประสบความสำเร็จในการเปิดศูนย์การค้า JAS Green Village ประเวศ เป็นแห่งที่ 7 ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สนับสนุนกำไรเติบโตก้าวกระโดด และคาดจะเปิดอีก 1 แห่งภายในไตรมาส 3 ปีนี้
"ผลการดำเนินงานที่ประกาศออกมาพลิกกลับมาเป็นบวกต่อเนื่อง 4 ไตรมาส ยอดรวมกำไร 4 ไตรมาสล่าสุด รวมกันแล้วมากกว่า 1 พันล้านบาท สามารถพิสูจน์ว่า เราเดินตามแผน แก้เกม และกลยุทธ์การเติบโตที่วางไว้จะค่อยๆ ส่งกำไรกลับมาให้บริษัทอย่างแข็งแกร่ง บริษัทในกลุ่มบริหารหนี้ของ JMT แต่ทิศทางจะดีขึ้นในครึ่งปีหลังและปีหน้า พัฒนาการที่ดีขึ้นของ SINGER และ SGC โดยเรายังชูสินเชื่อ SG Finance+ ผลักดันแคมเปญ Locked Phone เป็นดาวดวงใหม่อีกดวง อย่างไรก็ดี สำหรับสุกี้ ตี๋น้อย ยังคงเป็นบริษัทที่ส่งกำไรกลับมาให้ JMART ในไตรมาสนี้อย่างแข็งแรง" นายอดิศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่ม JMART ยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้การดำเนินงานร่วมกันของกลุ่มบริษัทย่อยและร่วม โดยมี 6 สายธุรกิจหลัก ที่เน้นการประกอบธุรกิจหลักในธุรกิจค้าปลีก และการเงิน ด้วยเทคโนโลยี ปักธงปีนี้ผลงานเทิร์นอะราวด์ตามนัด พร้อมกับฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ในการชำระคืนหุ้นกู้ได้ตามกำหนดแน่นอน