กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เตรียมเดินหน้าเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่นักลงทุนทั่วไป มูลค่ารวมไม่เกิน 1 แสน -1.5 แสนล้านบาท คาดเริ่มเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. และนำเข้าจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในไตรมาส 3/67 เพิ่มทางเลือกในการออมแก่ประชาชนสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ
โดยกองทุนฯ มีหน่วยลงทุน 2 ประเภทคือหน่วยลงทุนประเภท ก. และประเภท ข. ปัจจุบันกองทุนฯ มีเพียงหน่วยลงทุนประเภท ข. และกำลังจะระดมทุนโดยเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ต่อผู้ลงทุนทั่วไป
หน่วยลงทุนประเภท ก. มีระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี จะเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับเงินปันผลในแต่ละปีตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ และไม่เกินกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นสูง ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและขั้นสูงดังกล่าวจะเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี
นอกจากนี้ กองทุนฯ จะมีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. โดยจะมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินลงทุนตามแนวทางการชำระคืนเงินลงทุนที่มีลักษณะเป็น water fall และมีการกำหนดสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนฯ ต่อเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. และมาตรการต่างๆ เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. หากสัดส่วนดังกล่าวลดลง
กองทุนฯ จะเข้าลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งแบบเชิงรุก (Active Investment) และแบบเชิงรับ (Passive Investment) โดยส่วนใหญ่จะลงทุนในตราสารทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เน้นบริษัทที่มีผลตอบแทนที่ดี มีความมั่นคงในระยะยาว ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ขั้นตอนถัดไปจะมีการสำรวจความเห็นของนักลงทุนสถาบันเพื่อกำหนดอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ และอัตราผลตอบแทนขั้นสูง กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุน ช่องทางการเสนอขายหน่วยลงทุน และสัดส่วนการเสนอขายต่อผู้ลงทุนแต่ละประเภท
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า การวางแนวทางในการระดมทุนผ่าน กองทุนฯ ดังกล่าว เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุน ซึ่งกำหนดการซื้อขั้นต่ำ 5,000 โดยแนวทางการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีผลตอบแทนที่ดี มีความมั่นคงในระยะยาว ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งจะช่วยสร้างแรงกระตุ้นในการลงทุน และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
"สถานการณ์ตลาดทุนไทยที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าค่อนข้างผันผวน เนื่องจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลออก จากความไม่แน่นอนต่าง ๆ เช่น ความผันผวนของตลาดการเงินโลก และปัญหาหนี้ครัวเรือนภายในประเทศ โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยรวมมูลค่ากว่า 500,000 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าการซื้อขาย ตลท. รวมถึงมูลค่าการระดมทุนของตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้ชะลอตัวลง สะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจที่ไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่" นายพิชัย กล่าว
พร้อมมั่นใจว่ากองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ด้วยขนาดกองทุนที่น่าสนใจ ในระดับ 100,000-150,000 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของมูลค่าตลาดหุ้นไทยที่ต่างชาติขายสุทธิในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่ำ
รมว.คลัง กล่าวด้วยว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการสนับสนุนตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มาตรการ Thai ESG เพื่อส่งเสริมการออมและการลงทุนระยะยาวในกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาออกมาตรการสนับสนุนตลาดทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในปีนี้ด้วย
ขณะที่การปรับพอร์ตการลงทุนของกระทรวงการคลังนั้น นายพิชัย กล่าวว่า การพิจารณาการปรับการลงุทนเพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้น เป็นเรื่องปกติ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ไม่ใช่แค่เรื่องของการพิจารณาผลตอบแทนเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงเรื่องอื่น ๆ ด้วย
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานของกองทุนรวมวายุภักษ์ กล่าวว่า ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ คณะกรรมการกำกับฯ จะมีการประชุมกัน เพื่อหารือในรายละเอียดต่าง ๆ ของกองทุนฯ ซึ่งคาดว่าจะทยอยมีความชัดเจนออกมา โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์จากนี้ เพื่อออกเป็นหนังสือชี้ชวน
"ศุกร์นี้ เราจะเริ่มประชุมกัน คาดว่ารายละเอียดจะค่อย ๆ ทยอยออกมา ต้องมีการทำงานร่วมกับ ก.ล.ต.อย่างใกล้ชิด โดยจะเร่งให้มีการเสนอขายได้ภายในเดือน ก.ย.นี้ เราจะให้กระบวนการเปิดขายเร็วที่สุด อาจเป็นกลางเดือน หรือปลายเดือนก.ย.นี้ เพื่อให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาด" ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ
ปัจจุบันกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 300,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 15% ภายหลังแปรสภาพกองทุนเมื่อปี 56 โดยมีการลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบางส่วนลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้รับเงินปันผลจากกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กว่า 40,000 ล้านบาท โดยมี บลจ.กรุงไทย และ บลจ.เอ็มเอฟซี เป็นผู้จัดการกองทุน
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ปัจจุบันปริมาณเงินออมในประเทศยังมีอยู่จำนวนมาก ท่ามกลางผลตอบแทนในตลาดทุนที่อยู่ในระดับต่ำและมีความผันผวน จึงทำให้นักลงทุนต่างแสวงหาทางเลือกในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จึงมองว่าการลงทุนในกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่งนี้มีความน่าสนใจที่จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับนักลงทุน จาก 3 เหตุผลสำคัญ ดังนี้
1. โครงสร้างกองทุนฯ มีความน่าสนใจ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีหลักประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ ซึ่งทำให้ลดความเสี่ยงจากภาวะความผันผวนของตลาดได้
2. การเข้าลงทุนในตอนนี้ ถือว่ามีความเหมาะสมและน่าสนใจเป็นอย่างมาก เหมือนเป็นการเข้ามาซื้อของถูก
3. โครงสร้างของกองทุฯ แม้จะมีนักลงทุนหลายประเภท แต่นักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อได้ก่อน เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดการลงทุนของนักลงทุนรายย่อยที่แสวงหาการลงทุนในลักษณะเช่นนี้ได้เป็นอย่างดี
นายภากร กล่าวด้วยว่า จากสภาพตลาดในปัจจุบันที่นักลงทุนรายย่อยมีสัดส่วนลดลงเมื่อเทียบกับนักลงทุนต่างชาตินั้น เมื่อมีกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่งเข้ามาจะช่วยทำให้นักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนสถาบันเข้ามาลงทุนในกองทุนฯ มากขึ้น เนื่องจากมีโครงสร้างกองทุนฯ ที่น่าสนใจ ล็อกความเสี่ยงขาลงในผลตอบแทนได้ในระดับหนึ่ง เชื่อว่าจะทำให้เกิด Good Sentiment ที่ดีกลับเข้ามาในตลาดทุนไทย
"ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อมั่นว่า ด้วยนโยบายของกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง ในการเข้าลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุน และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนไทยและต่างชาติ เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น" นายภากร ระบุ
ด้านนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. มีบทบาทสำคัญในการดูแลและส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างมั่นคงมีประสิทธิภาพ ยั่งยืน และเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน สนับสนุนการลงทุนในกองทุนรวม มีมาตรการให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนอย่างโปร่งใส เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างรอบคอบ และมีการตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการทุจริตและการกระทำที่ไม่เป็นธรรม ตลอดจนให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวม เพื่อให้ผู้ลงทุนทั่วไปเข้าใจและตัดสินใจลงทุนได้อย่างถูกต้อง
ก.ล.ต.พร้อมให้การสนับสนุน กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เพื่อให้สามารถระดมทุนจากนักลงทุนทั่วไป ผ่านการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ รวมถึงทบทวนกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนของกองทุนฯ
นางพรอนงค์ กล่าวว่า หากเริ่มมีการเปิดเสนอขายให้รายย่อย ก.ล.ต.จะเข้าไปดูแลรายละเอียดของกองทุนฯ ซึ่งต้องเป็นข้อมูลที่ครบถ้วน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใส
"เราไม่ได้อยากให้มีแค่นักลงทุนมาอย่างเดียว แต่อยากให้มีการปรับปรุงความเชื่อมั่น dark spot เปิดเผยเกณฑ์ที่เป็นธรรม สร้างความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อดำรงไว้ซึ่งเม็ดเงินลงทุนในระยะยาว" เลขาธิการ ก.ล.ต. ระบุ