ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายร่วงหนักกว่า 15 จุดรับแรงขายหุ้นกลุ่ม Domestic Play อาทิ CPALL PTT หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5:4 วินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี และสั่งให้คณะรัฐมนตรีพ้นจาตำแหน่งทั้งคณะ
เมื่อเวลา 15.28 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,287.70 จุด ลดลง 10.09 จุด (-0.78%) ก่อนไหลต่อ 15 จุด มาอยู่ที่ 1,282.62 จุด (-1.17%)
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายปรับตัวลงไปกว่า 10 จุด ตอบรับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งพร้อมคณะรัฐมนตรีทั้งชุด ทั้งนี้ตามกระบวนการหลังจากนี้ต้องเลือกนายกคนใหม่ พร้อมกับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทั้งหมด ซึ่งระยะสั้นจะสร้างแรงกดดันต่างๆต่อนโยบายรัฐบาลที่เคยเป็นชูโรงของนายกฯ โดยเฉพาะ Digital Wallet ซึ่งกระทบกับกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME HMPRO) และกองทุนวายุภักษ์ อย่างไรก็ตามเรายังมองบวกกับดัชนีและมองการปรับฐานเป็นโอกาสสะสม บนสมมติฐานทุกอย่างจะค่อยๆคลี่คลาย
ให้แนวรับที่ 1,270 จุด และแนวต้าน 1,290 จุด
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุ จากการที่นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ทางฝ่ายประเมินว่าดัชนี SET Index มีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,250 จุด ท่ามกลางควางกังวลเสถียรภาพของการเมืองไทย และมาตรการทางเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีแนวโน้มสะดุดลง โดยเฉพาะโครงการ Digital Wallet แล้วจากนั้น SET Index จะรอติดตามการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่อาจใช้เวลาประมาณ 1 เดือน และนโยบายของรัฐบาลใหม่ในขั้วเดิมก่อนเลือกทางอีกครั้ง ซึ่งหากการเลือกนายกรัฐมนตรีดำเนินไปได้ปกติ กล่าวคือไม่เกิดภาวะสุญญากาศเป็นเวลานาน และรัฐบาลใหม่มีนโยบายที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จะส่งผลให้ SET Index มีแนวโน้มที่จะค่อยๆ ฟื้นตัวในระยะถัดมา
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำลงทุนในหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจภายนอก หรือหุ้นที่ยืนแกร่งกว่าตลาด
- หุ้นในกลุ่มส่งออกสินค้า : AAI, CPF, DELTA, GFPT, ITC, KCE, SAPPE, TU, XO
- หุ้นในกลุ่ม REITs: FTREIT, LHHOTEL, WHART
- หุ้นที่ยืนแกร่งกว่าตลาด: ADVANC, CBG, GULF, RATCH, STEC