นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทยอยปรับขึ้นราคาขายโครงการที่กำลังเปิดขายอยู่ในปัจจุบันอีกประมาณ 10-20% ขึ้นกับแต่ละโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันและราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น
ในปีนี้ MJD วางแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด 3 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้นเกือบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการที่เปิดไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ 1.โครงการรอยซ์ ไพรเวท เรสซิ เดนท์ส สุขุมวิท 31 เป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่สูง 39 ชั้น และ 25 ชั้น มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท ระดับราคาขาย 1.5 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งบริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับบริษัทในเครือ เอไอจี โกลบอล เรียลเอสเตท อินเวสต์เม้นต์ (AIG)
โครงการที่ 2 ได้แก่ โครงการ Marrakesh หัวหิน เป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น และ 4 ชั้น จำนวน 8-10 อาคาร บนเนื้อที่รวมกว่า 16 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 3,000 ล้านบาท ระดับราคาขาย 1.2 แสนบาทต่อตารางเมตร ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าในประเทศที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ล่าสุด MJD เตรียมจะเปิดตัวโครงการใหม่อีก 1 โครงการ ซึ่งจะเป็นโครงการที่ 3 ของปีนี้ คือ โครงการรีเฟล็กชั่น หาดจอมเทียน จังหวัดพัทยา ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ระดับซูเปอร์ลักซัวรี่ บริเวณหาดจอมเทียน 1 สูงกว่า 40 ชั้น จำนวน 2 อาคาร มูลค่าโครงการ 3,300 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/51 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 107.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.47 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2550 ที่มีกำไรสุทธิ 43.13 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 159% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 614.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2550 ที่มีรายได้ 372.50 ล้านบาท
ทั้งนี้ กำไรที่เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากบริษัทมีรายได้จากการขายโครงการเพิ่มขึ้นประมาณ 240.41 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่น่าพอใจ โดยมาจากการรับรู้รายได้โครงการทั้งหมด 6 โครงการ ได้แก่ โครงการวอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยา ทาวเวอร์เอ จำนวน 309.41 ล้านบาท โครงการวอเตอร์มาร์ค ทาวเวอร์ บี จำนวน 178.90 ล้านบาท, โครงการแมนฮัตตัน ชิดลม จำนวน 55.33 ล้านบาท, โครงการฟูลเลอตัน สุขุมวิท จำนวน 2.72 ล้านบาท โครงการวินด์ สุขุมวิท 23 จำนวน 36.89 ล้านบาท และโครงการวินด์ รัชโยธิน จำนวน 27.04 ล้านบาท
“ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ MJD ถือว่าเติบโตได้ดี ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะผันผวน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทฯ เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมากและสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย บวกกับบริษัทฯ ยังได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ รวมถึงกำไรเพิ่มขึ้นยังมาจากการปรับราคาขายขึ้นอีก ซึ่งเป็นการปรับขึ้นตามราคาที่ดินย่านศูนย์กลางทางธุรกิจ (CBD area) อีกด้วย" นายสุริยน กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--