หุ้น CPALL บวก 4.39% มาอยู่ที่ 59.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าซื้อขายหนาแน่นกว่า 2.89 พันล้านบาท เมื่อเวลา 14.05 น. โดยเปิดตลาดที่ 57.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 59.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 57.25 บาท
บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ได้รับการหยิบยกจากบรรดาโบรกเกอร์ขึ้นมาเป็นหนึ่งในหุ้น Top Pick ของเดือนนี้ ด้วยปัจจัยหนุนรอบด้าน คือ เป็นหุ้นเป้าหมายลงทุนของกองทุน THaiESG ภายใต้เงื่อนไขใหม่ และกองทุนวายุภักษ์ที่รอการออกหน่วยลงทุนใหม่ รวมทั้งเป็นหุ้นค้าปลีกตัวแรก ๆ ที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมทั้งเป็นกลุ่ม Domestic ที่ปรับฐานลึกและจะฟื้นตัวใน H2/67
ขณะที่ปัจจัยด้านเทคนิค บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า CPALL ราคาเริ่มต้นมีภาพที่เป็นบวกรอบใหม่หลังทะลุผ่านแนวต้าน 58.50 บาทขึ้นมา พร้อมด้วย Volume ซื้อหนาแน่นและ MACD ตัด 0 ขึ้นมา วางแนวต้านถัดไปที่ 60.50 บาทและ 61.50 บาท แนวรับ 58.50/55.75 แนะนำตั้งรับที่ 58.50 บาท วางจุดตัดขาดทุนที่ 55.75 บาท
ด้านบล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ ระบุว่า แม้ Q3/67 คาดผลประกอบการ CPALL ชะลอตัวจากช่วง Low Season ของธุรกิจ แต่เชื่อว่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วง Q4/67 ตามการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและเทศกาลจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตามในระยะสั้นเรามองปัจจัยความไม่แน่นอนในมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐผ่าน โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะเป็นปัจจัยกดดัน แต่เราเชื่อว่าการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวจะยังเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญบวกผลประกอบการบริษัทในอนาคต
ส่วน บล.กรุงศรี มีมุมมอง neutral ต่อข่าว Couche-Tard ค้าปลีกแคนาดายื่นข้อเสนอซื้อกิจการ 7-11 ญี่ปุ่น (เจ้าของลิขสิทธิ์ 7-11) เพราะคาดจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของ CPALL อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเราประเมิน 1) ดีลนี้ยังใช้เวลาหลายเดือนจึงได้ข้อสรุป, 2) หากดีลเกิด เราคาดการถูกเปลี่ยนแปลงสัญญาระหว่าง CPALL และ 7-eleven inc. จะเกิดขึ้นน้อย เพราะสัญญาที่ทำไม่มีอายุสิ้นสุด เสีย royalty fee ในอัตรากำหนดตายตัวอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าจะต้องปรับสัญญาจะต้องได้รับการยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงคำแนะนำ "BUY" โดย TP25F ที่ 84 บ. และให้เป็นหุ้นเด่นสุดในกลุ่มค้าปลีก