BPP จ่อปรับเป้ากำลังผลิตใหม่สรุปแผน พ.ย.นี้ เร่งปิดดีล M&A โรงไฟฟ้า CCGT ในสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 21, 2024 12:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

BPP จ่อปรับเป้ากำลังผลิตใหม่สรุปแผน พ.ย.นี้ เร่งปิดดีล M&A โรงไฟฟ้า CCGT ในสหรัฐ

บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) เตรียมทบทวนเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้า จากเดิมคาดแตะ 5.3 พันเมกะวัตต์ในปี 68 คาดว่าจะสรุปแผนงานใหม่ภายในเดือน พ.ย.นี้ โดยอยู่ระหว่างเจรจาทำ M&A โรงไฟฟ้า CCGT ในสหรัฐ วางงบลงทุน 500-700 ล้านเหรียญฯสหรัฐ ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้ใกล้เคียงปี 66 หากไม่รวมกำไรพิเศษในปีที่ผ่านมา

นายอิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BPP เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับแผนงานในช่วง 5-6 ปี (ปี 68-73) ใหม่ ซึ่งจะประกอบไปด้วย เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ จากเดิมคาดเพิ่มขึ้นแตะ 5,300 เมกะวัตต์ในปี 68 โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 3,656 เมกะวัตต์ และเตรียมขยายกำลังการผลิตในธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ CCGT (Combined Cycle Gas Turbines) ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ผ่านการเข้าซื้อกิจการ (M&A) เพื่อให้สามารถรับรู้ผลการดำเนินงานเข้ามาทันที ซึ่งปัจจุบันก็อยู่ในช่วงการสอบทานธุรกิจ (Due Diligence) โรงไฟฟ้า CCGT สหรัฐฯ

นอกจากนี้ บริษัทจะปรับแผนดำเนินงานของโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน (Energy Infrastructure) โครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture Utilization and Storage: CCUS) และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System: BESS) ซึ่งเบื้องต้นบริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาการใช้ประโยชน์จากแอมโมเนีย มาช่วยลดการเผาถ่านหิน และเทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจน ลดการใช้เชื้อเพลิงปล่อย CO2

ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนในช่วง 3 ปี (ปี 67-69) ราว 500-700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองรับการเข้าซื้อกิจการ (M&A) เป็นหลัก

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้ คาดจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก จากธุรกิจผลิตไฟฟ้าเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าในสหรัฐ ซึ่งไตรมาส 3/67 เป็นช่วงฤดูร้อนส่งผลดีต่อดีมานด์การใช้ไฟฟ้าที่จะสูงขึ้น และจะมีการรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Ponder Solar ขนาด 2.5 เมกะวัตต์ ในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 19 ส.ค.67

ส่วนผลการดำเนินการในปีนี้ บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิน่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ระดับประมาณ 4,000 ล้านบาท หากไม่นับรวมรายการกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ประมาณ 1,300 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิแล้ว 1,659 ล้านบาท และคาดว่าครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ