SET ปิดเช้านี้ 1,339.06 จุด เพิ่มขึ้น 1.23 จุด (+0.09%) มูลค่าซื้อขายราว 19,884 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด รับแรงซื้อสลับขายทำกำไรหลังราคาหุ้นปรับขึ้นมามาก อาทิ กลุ่มแบงก์ โดยประเด็นการเมืองเริ่มนิ่งหลังได้นายกฯ คนใหม่และกำลังฟอร์มทีม ครม. ขณะที่ตลาดรอคอยสุนทรพจน์ของประธานเฟดจะส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยอย่างที่คาดไว้หรือไม่ แนวโน้มช่วงบ่ายคาดกว่งซึมตัว ให้แนวรับแรก 1,333 จุด ถัดไป 1,325 จุด ส่วนแนวต้าน 1,340 และ 1,345 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดภาคเช้า 1,339.06 จุด เพิ่มขึ้น 1.23 จุด (+0.09%) มูลค่าซื้อขายราว 19,884 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเคลื่อนไหวทั้งบวกและแดนลบในกรอบแคบ ทำระดับสูงสุด 1,343.35 จุด และต่ำสุด 1,334.79 จุด
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ทิศทางเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัด มีทั้งแรงซื้อและแรงขายสลับกัน รวมทั้งเลือกเล่นหุ้นรายตัว โดยกลุ่มธนาคารมีแรงขายทำกำไรออกมาหลังราคาขึ้นมามาก อีกทั้งตลาดขึ้นมาหลายวันแล้วหลังจากได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และการฟอร์มทีมรัฐบาลใหม่เดินหน้าไประดับหนึ่งแล้ว ทำให้ตลาดย่อตัวและซึมๆ
ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังรอติดตามการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 23 ส.ค.แม้ตลาดจะรับรู้โอกาสเฟดปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.นี้แล้ว แต่ก็ต้องรอติดตามว่าจะเป็นไปตามคาดหรือไม่
แนวโน้มช่วงบ่ายตลาดน่าจะเคลื่อนไหวคล้ายช่วงเช้า ลักษณะซึมตัว โดยช่วงเช้าตลาดขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,340 จุดแต่ยืนไม่ไหวและย่อตัว เป็นการปรับฐานระยะสั้น ดังนั้น ให้แนวรับแรก 1,333 จุด ถัดไป 1,325 จุด ส่วนแนวต้าน 1,340 และ 1,345 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,176.34 ล้านบาท ปิดที่ 5.85 บาท ลดลง 0.10 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,169.98 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 889.34 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 707.23 ล้านบาท ปิดที่ 28.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 702.69 ล้านบาท ปิดที่ 58.50 บาท ลดลง 0.75 บาท