หุ้น HANA ลบ 3.07% มาอยู่ที่ 39.50 บาท ลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขายกว่า 224 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.41 น. โดยเปิดตลาดที่ 40.75 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 41.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 39.50 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า จากการที่ผู้บริหาร บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) ประชุมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ในช่วงบ่าย โทนค่อนไปทางลบ แนวโน้มรายได้ Q3/67 ทรงถึงปรับขึ้นเล็กน้อย แต่บาทแข็งน่าจะกระทบอัตรากำไรขั้นต้น ภาพระยะสั้นไม่ตื่นเต้น รอดูการฟื้นตัวปีหน้า
แนวโน้ม Q3/67 ไม่ตื่นเต้นเท่าที่เคยคาด เพราะ Demand โดยรวม โดยเฉพาะฝั่ง Auto และ Industrial ไม่ฟื้น รวมถึงจีนที่ยังไม่สดใส จะมีฝั่ง Smartphone และ AI PC ที่น่าจะเร่งตัวขึ้นใน H2/67 และแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นอาจอ่อนลงใน Q3/67 จากค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า
ส่วน SiC แนวโน้มรายได้น่าจะฟื้นตัวได้ต่อใน H2/67 แต่อาจโตช้ากว่าที่เคยคาด เพราะเผชิญกับราคาขายที่ปรับลง ส่วนหนึ่งจากความต้องการฝั่ง Auto โดยเฉพาะในตลาดจีนที่ยังฟื้นช้า แต่ผู้บริหารระบุว่า อาจถูกหักล้างด้วยราคาวัตถุดิบที่ปรับลงเช่นกัน และราคา SiC ที่ปรับลงอาจทำให้ sector อื่นๆ ที่ไม่ใช่ Auto หันมาใช้ SiC ได้มากขึ้น
ทั้งนี้ HANA อยู่ระหว่างเซ็นสัญญาทำการตลาดกับ China Auto Group เพื่อเจาะตลาด SiC EV ในจีน คาดจะได้เห็นความชัดเจนในปี 68
ผู้บริหารยังเปิดเผยถึงแผนธุรกิจของบริษัทร่วมทุน FT1 โดย HANA ถือ 49% และ PTT ถือ 51% ซึ่งจะทำธุรกิจ Wafer Fab แห่งแรกในประเทศไทย เฟสแรกจะผลิต Foundry สำหรับ SiC ที่โรงงานลำพูน และจะมี PMS (เป็น รง.ที่เกาหลีใต้ของ HANA) เป็นลูกค้ารายแรก แต่ยังไม่เร็ว เพราะในช่วง 2 ปีแรกจะส่งพนักงานไปฝึกอบรมที่เกาหลีใต้ก่อน และจะเริ่ม Operate อย่างเร็วกลางปี 70 ทั้งนี้มูลค่าเงินลงทุนยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ผู้บริหารระบุว่ายังไม่จำเป็นต้องอาศัยเงินเพิ่มทุน ยังมี cash ในกิจการ และเพิ่งเพิ่มทุนไปในปีที่แล้ว
เบื้องต้นคาดกำไร Q3/67 (ไม่รวมเงินที่จะได้คืนจากกองทุนของ Credit Suisse) น่าจะทรงตัวถึงปรับลง q-q แต่จะยังลดลง y-y เพราะฐานอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงใน Q3/66 และคาดหวังกำไรจะกลับมาฟื้นใน H1/68 เมื่อ Demand โดยรวมดีขึ้น โดยเฉพาะจากตลาดจีน และกลุ่ม Automotive