HILITE: หุ้นซ่อมบ้าน-ซ่อมถนนดีดขึ้นรับสถานการณ์น้ำท่วมหนักภาคเหนือจ่อไหลลงเข้าภาคกลาง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 26, 2024 11:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มหุ้นในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมบ้านและซ่อมถนนปรับตัวขึ้น จากสถานการณ์น้ำท่วมหนักในหลายจังหวัดทางภาคเหนือและมวลน้ำกำลังไหลเข้ามาสู่ภาคกลาง ซึ่งภายหลังจากน้ำลลงคาดว่าจะมีการซ่อมแซมบ้านและถนนจำนวนมาก ทำให้ดีมานด์วัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน รวมถึงดีมานด์คอนกรีตและยางมะตอยปรับตัวสูงขึ้น

เมื่อเวลา 10.46 น.

HMPRO ปรับขึ้น 6.04% มาที่ 9.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท มูลค่าซื้อขาย 393.49 ล้านบาท

GLOBAL ปรับขึ้น 3.36% มาที่ 15.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 42.86 ล้านบาท

DOHOME ปรับขึ้น 2.73% มาที่ 11.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 59.88 ล้านบาท

TASCO ปรับขึ้น 2.37% มาที่ 17.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 144.72 ล้านบาท

UMI ปรับขึ้น 21.74% มาที่ 0.84 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท มูลค่าซื้อขาย 6.20 ล้านบาท

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่า บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เป็นหุ้นโดดเด่นได้รับอานิสงส์จากการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังเกิดน้ำท่วมในภาคเหนือ ขณะที่แม้คาดไตรมาส 3/67 กำไรจะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ โดยทรงตัว YoY เนื่องจาก SSS ที่หดตัวลงในไตรมาส 3/67 จะถูกชดเชยโดยการขยายสาขาและมาร์จิ้นที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่กำไรจะเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดของปีนี้ในไตรมาส 4/67 ส่วน Valuation ยังต่ำสุดในกลุ่มฯ โดยเทรด PER 67F ที่ 17.8 เท่า (-2SD)

ส่วน บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่า บมจ. ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) ในระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาสได้แรงหนุนจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาพเหนือที่เริ่มรุนแรงขึ้น หากลุกลามและขยายมายังจังหวัดอื่นๆในภาคกลางตอนบน จะเป็น Sentiment หนุน TASCO จากการซ่อมแซมถนนหลังน้ำลด หนุนความต้องการยางมะตอยในประเทศ

ขณะที่ภาพรวมแนวโน้มกำไรช่วงครึ่งหลังปี 67 คาดเร่งตัวขึ้นจากครึ่งแรกปี 67 จากการเบิกจ่ายงบฯ 67 ที่เร่งตัวในไตรมาส 3/67 ขณะที่งบฯปี 68 คาดไม่ล่าช้าอย่างมีนัยสำคัญเหมือนปีก่อน แนะนำ "เก็งกำไร" ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA consensus 18.57 บาท

ด้าน บล.กรุงศรี ระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือล่าสุด แม้ภาพหน้าข่าวน่ากังวล แต่หากพิจารณาระดับน้ำในเขื่อนทั่วประเทศปัจจุบัน ณ 25 ส.ค.อยู่ที่ 61% ของความจุทั้งหมด ระดับดังกล่าวยังอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำในเขื่อนปี 48-66 และหากยังต่ำกว่า หากเทียบกับระดับปี 45 (ปีที่ระดับน้ำสูงสุดในรอบ 5 ปีหลัง) โดยข้อมูลทั้ง 2 ส่วนดูตาราง 1 นอกจากนี้ หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 54 (25 ส.ค.54) ที่เกิดวิกฤติมหาอุทกภัยระดับน้ำสูง 73% ของความจุเขื่อน โดยมีภาคที่เริ่มเฝ้าระวัง คือ พื้นที่ภาคเหนือและตะวันตก

อย่างไรก็ตาม หากมองภาพความเสี่ยงที่จะมีพายุ/ไต้ฝุ่นเข้ามาซ้ำเติมสถานการณ์ ความเสี่ยงหลักของเอเชีย คือ พายุไต้ฝุ่น Shanshan ปัจจุบันมีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางเอเชียเหนือมากกว่า ขณะที่น้ำในส่วนที่สร้างผลกระทบไปแล้ว เขื่อนที่ยังอยู่ในโซนพื้นที่ภาคกลาง - ใต้ - ตะวันออก ยังน่าจะรองรับได้ ทำให้ประเมินความเสี่ยงสถานการณ์น้ำท่วมปีนี้จะรุนแรงเท่ามหาอุทกภัยยังจำกัด และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อห้างค้าปลีกน่าจะอยู่ในวงจำกัดเฉพาะภาคเหนือ (3-10% ของรายได้ โดยมี CRC และ GLOBAL สูง 17% และ 25% ซึ่ง CRC น่าจะอยู่ในส่วนเชียงใหม่ที่อยู่นอกพื้นที่น้ำท่วมเป็นหลัก)

กลยุทธ์ลงทุนภายใต้สถานการณ์น้ำท่วมบาง Zone ประเมินเป็นปัจจัยบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นกลุ่ม Home Improvement อาทิ HMPRO, GLOBAL, DOHOME เน้น DOHOME (TP-12.3) , และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง อาทิ DCC ,TASCO, SCGD TOA เน้น TASCO(TP-17.6) หนุนจากการฟื้นฟูซ่อมแซม, บ้าน สถานที่ถูกน้ำท่วม ส่วนหุ้นอิงการบริโภค อาทิ ค้าปลีกสินค้าจำเป็น เช่าซื้อ ธนาคาร และสื่อสาร ที่อ่อนตัวรับความกังวลดังกล่าว มองเป็นจังหวะซื้อลงทุน KTB (TP-21), KBANK (TP-145), CPALL (TP-84) CPAXT(TP-40), MTC (TP-58), TRUE (TP-12), ADVICE (TP Con-6.55)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ