กลุ่ม JMART ดีดตัวขึ้นแรง ทั้งกลุ่ม จากความคาดหวังการฟื้นตัวธุรกิจ ประกอบกับราคาหุ้นปรับตัวลงไปมาก
เมื่อเวลา 11.35 น.
JMART ปรับขึ้น 12.50% มาที่ 16.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 530.89 ล้านบาท
JMT ปรับขึ้น 9.21% มาที่ 16.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 506.22 ล้านบาท
SINGER ปรับขึ้น 8.43% มาที่ 9.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 164.49 ล้านบาท
SGC ปรับขึ้น 5.67% มาที่ 1.49 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 88.17 ล้านบาท
นายธนเดช รังษีธนานนท์ Director of Research บล.พาย กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มบมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) ปรับตัวขึ้นมามาจากแรงเก็งกำไรที่นักลงทุนคาดหวังธุรกิจกลุ่มนี้จะพลิกฟื้นดีขึ้น โดยบมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำ (JMT) ซึ่ง JMART ถือหุ้น 53.84% ในช่วงครึ่งปีแรกธุรกิจยังตามหนี้ได้น้อย แต่ JMT ระบุในไตรมาส 2/67 ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว (Bottom out) และในครึ่งปีหลังกำไรจะดีขึ้น ทั้งนี้ หากผลประกอบการ JMT ดีขึ้น JMART ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ก็ดีขึ้นตามไปด้วย
อีกทั้ง บมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC)ที่เปิดตัวสินเชื่อใหม่ เอสจี ไฟแนนซ์พลัส แคมเปญ Locked Phone เข้ามาเพิ่มศักยภาพการขายสินค้ากลุ่มโทรศัพท์มือถือที่สามารถลดหนี้เสียได้จากใช้เทคโนโลยี Device Locking หากผู้ใช้เครื่องไม่ผ่อนชำระ ซึ่งคาดว่าในครึ่งปีหลังธุรกิจ SGC จะฟื้ตัวดีขึ้น ทำให้บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ซึ่งถือหุ้นใหญ่ 74.92% มีกำไรฟื้นตัวตามไม่ด้วย แต่คาดว่าปีนี้ทั้ง SINGER และ SGC จะมีกำไรไม่มาก ขณะที่ JMART ถือหุ้น SINGER อยู่ 25.20% จะมีผลประกอบการดีขึ้น
นอกจากนี้ ราคาหุ้นกลุ่ม JMART ลดลงไปมาก และผ่านจุดต่ำสุดแล้ว อีกทั้งโอกาสทำกำไรในช่วงครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก ทำให้นักลงทุนคาดหวังผลประกอบการดีขึ้นในกลุ่ม JMART ในขณะที่มีกระแสข่าวรัฐบาลเตรียมจะแจกเงินตามนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ล็อตแรกในเดือนกันยายนนี้ ช่วยหนุนราคาวันนี้ด้วย
ด้านนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ราคาหุ้นของกลุ่ม JMART ที่ปรับตัวขึ้นได้ดี โดยหลักน่าจะมาจากผลการดำเนินงานที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หลังบมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC) ที่เป็นตัวฉุดผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา สัญญาณกำไรไตรมาส 3/67 เริ่มดีขึ้น หนุนจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ เอสจี ไฟแนนซ์พลัส (SG Finance+) ในแคมเปญ Locked Phone
ขณะที่ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) คาดครึ่งปีหลังนี้กำไรฟื้น จาก Cash Collection ดีขึ้น, การฟ้องร้องลูกหนี้เบาลง, การตั้งสำรอง ECL น้อยลง
ด้าน Valuation ของกลุ่มนี้ก็อยู่ในโซนที่ถูก หลังราคาปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก จากปัญหาสภาพคล่อง และผลการดำเนินงานบริษัทลูกที่ติดลบ