นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) จำนวน 2,325 ล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนสำหรับการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Rooftop PV System) ของกลุ่ม GUNKUL เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
"กลุ่มบริษัทเป็นผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนและระบบไฟฟ้าที่ไม่เพียงนำมาซึ่งผลตอบแทนทางการเงิน แต่ยังก่อให้เกิดผลตอบแทนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในอนาคตกลุ่ม GUNKUL มีแผนพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติม การสนับสนุนวงเงินสินเชื่อจาก EXIM BANK ในครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้ธุรกิจพลังงานทดแทนของ GUNKUL ดำเนินการได้สำเร็จตามแผนที่วางไว้ นอกจากนี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถการด้านการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น" นายสมบูรณ์ กล่าว
บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตในช่วง 3-5 ปี ไม่ต่ำกว่า 15% ต่อปี จากการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนที่ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเรียบร้อยแล้วกว่า 832 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศที่จะเพิ่มเติมในอนาคต นอกจากนี้ยังมีส่วนของงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) งานขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า และงานบริการก่อสร้างที่มีอยู่ กว่า 5,000 ล้านบาทที่ช่วยสนับสนุน
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า การสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK ในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) ต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายสู่อนาคต (Future Industries) ขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Greenomics) สอดคล้องกับบทบาทของ EXIM BANK สู่การเป็น Green Development Bank
ขณะที่กลุ่มบริษัท GUNKUL ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างครบวงจรทั้งในประเทศและต่างประเทศ มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาด เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2593
"การสนับสนุนทางการเงินให้แก่กลุ่มบริษัท GUNKUL เป็นส่วนหนึ่งในการทำหน้าที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาของ EXIM BANK มุ่งสนับสนุนบริการทางการเงินเพื่อเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนของธนาคารให้เป็น 50% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดภายในปี 2570 ต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและโลกโดยรวม ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม" นายรักษ์ กล่าว