นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดย่อตัวลง สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังปิดตลาดวานนี้ติดลบเล็กน้อย และในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน โดยนักลงทุนยังคงรอติดตามการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่วางไทม์ไลน์งานอย่างไร รวมถึงจะนำคำแนะนำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาดำเนินการหรือไม่ เบื้องต้นเชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาลจะเร่งลดการนำส่งเงินจากแบงก์พาณิชย์เข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) แลกกับการแฮร์คัตหนี้ภาคประชาชน และ Entertainment Complex
ขณะที่เงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง แนะเก็งกำไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ โรงไฟฟ้า สายการบิน และเมื่อบาทพลิกอ่อนค่าลงให้เข้าลงทุน กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และอาหารสัตว์เลี้ยง
สำหรับปัจจัยในต่างประเทศ ช่วงปลายเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ จะเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ต้องจับตาว่าใครจะมีโอกาสชนะ รวมถึงการเปิดเผยผลประกอบการของ Nvidia Corp ผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ
ให้แนวรับ 1,358 จุด และแนวต้าน 1,370 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (27 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,250.50 จุด เพิ่มขึ้น 9.98 จุด หรือ +0.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,625.80 จุด เพิ่มขึ้น 8.96 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,754.82 จุด เพิ่มขึ้น 29.05 จุด หรือ +0.16%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 38,221.38 จุด ลดลง 67.24 จุด หรือ -0.18%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 17,847.99 จุด ลดลง 26.68 จุด หรือ -0.15% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 2,844.33 จุด ลดลง 4.40 จุด หรือ -0.15%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ส.ค.) 1,364.31 จุด ลดลง 0.50 จุด (-0.04%) มูลค่าซื้อขาย 43,474.64 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,077.54 ล้านบาท (27 ส.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.(27 ส.ค.)ลดลง 1.89 ดอลลาร์ หรือ 2.44% ปิดที่ 75.53ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ส.ค.) อยู่ที่ 3.33 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.97 แข็งค่าเกาะกลุ่มภูมิภาค รอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง
- ส.อ.ท.ชี้สินเชื่อรถยนต์เข้ม หนี้ครัวเรือนสูง กดดันยอดขายในประเทศหดตัว 20.58% ฉุดการผลิตงวด ก.ค.67 ลดลง 16.62% พร้อมโดนสงครามซ้ำเติม ตลาดกลุ่มประเทศลูกค้าไม่โต ยอดส่งออกร่วง 22.70%
- ธปท. เผย "หนี้เสีย" ไตรมาส 2 ของระบบธนาคารพาณิชย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ห่วง "เอสเอ็มอี-รายย่อย" หนี้เสียพุ่ง โดยเฉพาะรายเล็กยอดขายไม่เกิน 50 ล้านบาท ชี้เสี่ยงลามกลุ่มรายได้เกิน 3 หมื่นบาท พบลูกค้าบ้านราคา 5 ล้านบาท เริ่มมีความเสี่ยงมากขึ้น
- "แนวโน้มสินเชื่อเช่าซื้อฯ ในระยะที่เหลือของปี 2567 จะยังคงภาพการหดตัวต่อเนื่อง โดยจะหดตัว 5.5% ณ สิ้นปี 2567 ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากที่หดตัว 0.4% ในปี 2566 และต่ำกว่าประมาณการเดิมที่คาดไว้ที่ขยายตัว 1.0-2.0% ค่อนข้างมาก สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ใหม่ในปีนี้ ที่คาดจะลดลงจากสมมติฐานเดิม มาอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 600,000 คัน"
- "ราชตฤณมัยสมาคมฯ" ประกาศลุยสถานบันเทิงครบวงจร ปักหมุด กทม.ภายใต้ชื่อ "The Royal Siam Haven" ดึงภาคเอกชน "รอแยล สปอร์ต คอมเพลกซ์" หรือ RSC เป็นพาร์ตเนอร์ร่วมขับเคลื่อนหลัก ทุ่มงบ 2 แสนล้าน ยกระดับสนามม้าไทย สู่มาตรฐานสากลและเป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย ส่วน "กาสิโน" ยังต้องรอการพิจารณาของกฎหมาย
- ครม.ตั้งซิงเกิลคอมมานด์ บริหารอุทกภัย จัดงบช่วยน้ำท่วม "ภูมิธรรม" เป็นประธาน สั่งการเบ็ดเสร็จ อนุมัติงบกลางเพิ่มได้ เตรียมชงรัฐบาลใหม่เป็นวาระแห่งชาติ เผยเหลืองบรับภัยพิบัติ 1.5 หมื่นล้าน "คลัง" ผนึก 7 สถาบันการเงินคลอดมาตรการการเงินช่วยผู้ประสบภัย "แบงก์ชาติ" ออกมาตรการ ด่วนสั่งแบงก์ช่วยลูกหนี้ผลกระทบน้ำท่วม
- การส่งออก ก.ค.67 มูลค่า 25,720.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 15.2% พลิกกลับมาเป็นบวก และเติบโตสูงสุดในรอบ 28 เดือน เหตุส่งออกเพิ่มทั้งเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร และอุตสาหกรรม รวมยอด 7 เดือน มูลค่า 171,010.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 3.8% ยันเป้าทั้งปีตามเป้า 1-2% มีลุ้นแตะกรอบบนที่ 2%
*หุ้นเด่นวันนี้
- BCH (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 22 บาท ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นลงมาราว 18% จากความกังวลรายได้จากประกันสังคมและการหายไปของผู้ป่วยคูเวต แต่บริษัทมีแนวโน้มจะได้รับผลบวกในช่วงไฮซีซั่นใน Q3/67 อีกทั้งจะยังมีรายได้พิเศษจากประกันสังคม คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้และกำไรให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้ มองราคาหุ้นระดับนี้สะท้อนความกังวลที่มากเกินไป
- NSL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 36 บาท โมเมมตัมกำไรไตรมาส 3/67 แม้อาจจะชะลอ q-q ตามปัจจัยฤดูกาลเนื่องจากเข้าช่วงหน้าฝน แต่คาดยังเห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง y-y ต่อเนื่อง ขณะที่ไตรมาส 4/67 จะเร่งขึ้นทำ New High หนุนจาก High Season อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไรปี 67 ปัจจุบันที่ 434 ลบ. +30%y-y เบื้องต้นราว 5-10% คาดว่าจะมี Upside หลังกำไร H1/67 คิดเป็นสัดส่วน 60% ของทั้งปี ทำให้ Valuation น่าสนใจ โดย PER มีโอกาสขยับลงมาบริเวณ 15 เท่า
- MINT (อินโนเวสท์เอกซ์) แนะนำ "ซื้อ" ไม่เกิน 26.75 บาท มองโมเมนตัมกำไรยังแข็งแกร่ง โดย H2/67 คาดกำไรปกติจะเติบโตทั้ง YoY และ HoH จากธุรกิจโรงแรมที่แข็งแกร่งในยุโรปจากการเพิ่มขึ้นของ ARR ขณะที่แม้สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตามภาพตลาดหุ้นไทย แต่ยังลดลง 9%YTD ส่งผลให้ valuation ยังถูก (PBV -2SD) จึงคาดมี downside จำกัด