ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก้าวสู่ปีที่ 50 จัดงาน "Thailand Focus 2024 : Adapting to a Changing World" เชิญผู้บริหารจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ ตลาดเงิน ตลาดทุน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) 112 บริษัท จากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ร่วมให้ข้อมูลสร้างความเชื่อมั่น เชื่อมโยงโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุนสถาบัน 178 ราย จาก 80 สถาบันทั่วโลก สะท้อนตลาดทุนไทยยังเป็นเป้าหมายการลงทุนในสายตาผู้ลงทุนต่างประเทศ
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงการจัดงาน Thailand Focus 2024 ครั้งที่ 18 ภายใต้แนวคิด "Adapting to a Changing World" ว่า งานครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่แสดงถึงศักยภาพการลงทุนในไทยแก่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลก โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนสถาบันร่วมงาน 178 ราย จาก 80 สถาบันทั่วโลก
และในจำนวนนี้มีผู้ลงทุนจากกลุ่มประเทศหลัก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสวีเดน ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงาน รับฟังความพร้อมและศักยภาพของภาคเอกชน ตลาดทุน และเศรษฐกิจไทย ซึ่งหนุนความเชื่อมั่นและดึงดูดความสนใจลงทุนในประเทศไทย โดยมีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน 112 บริษัท จากทุกกลุ่มอุตสาหกรรมร่วมให้ข้อมูลความแข็งแกร่งธุรกิจและทิศทางการเติบโตผ่านการประชุมทั้งรูปแบบ one-on-one และ group meeting
งาน Thailand Focus 2024 จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นเชื่อมโยงโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุนสถาบันต่างชาติ พร้อมนำเสนอให้เห็นถึงการปรับตัวและก้าวไปข้างหน้าของภาครัฐ ภาคตลาดทุน รวมถึงภาคเอกชนไทย โดยมีนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึงนโยบายและโครงการภาครัฐที่จะขับคลื่อนเศรษฐกิจของไทยสู่การเติบโตในอนาคต และนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจและเสถียรภาพของเศรษฐกิจไทย รวมถึงสถานการณ์ด้านสินเชื่อในภาคการเงิน
พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงในวงการธุรกิจและตลาดทุนที่ให้ข้อมูลการปรับตัวของตลาดทุนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ปรับตัวต่อยอดจากจุดแข็งของประเทศไทย และศักยภาพในการที่จะคว้าโอกาสจากบริบทใหม่ของโลก
"ผู้ลงทุนต่างชาติยังให้ความสนใจและติดตามการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย การขับเคลื่อนนโยบายที่มีอยู่เดิมให้เดินหน้าและแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต ที่จะส่งผลอย่างยิ่งต่อการลงทุนและการเติบโตของประเทศและตลาดทุนไทย ในส่วนของการประชุมร่วมระหว่างบริษัทจดทะเบียนกับผู้ลงทุนสถาบัน ก็ยังคงได้รับความสนใจเช่นกัน ทั้งบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในภาคธุรกิจที่เป็นจุดแข็งของประเทศและบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่เป็น New Economy" นายภากร กล่าว