รศ.พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ (SNPS) เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. ) ในการพัฒนา "B GOLDTM" สารสกัดกระชายดำบริสุทธิ์ที่มีปริมาณฟลาโวนอยด์สูงสุดในรูปแบบอนุภาคขนาดนาโน ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ได้รับการจดสิทธิบัตร
สำหรับ B GOLDTM เป็นสารออกฤทธิ์สีเหลืองทอง (Liquid gold particles) ที่ได้จากกระบวนการสกัดแบบพิเศษโดยใช้เทคโนโลยีนาโน เพื่อช่วยคงคุณค่าของสารออกฤทธิ์สำคัญกลุ่มฟลาโวนอยด์ไว้ได้อย่างครบถ้วน และอนุภาคขนาดนาโนของ B GOLDTM ยังช่วยทำให้สารออกฤทธิ์ซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังได้ดีขึ้น ส่งผลให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วกว่าสารสกัดทั่วไป
อีกทั้งยังผ่านการทดสอบทางคลินิก ทำให้พบว่ามีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ป้องกันเซลล์ผิวจากความเสียหาย 35.3-56.9%, ปกป้องการทำลาย DNA อันเป็นสาเหตุนำมาสู่อนุมูลอิสระซึ่งทำให้เกิดความชราได้ 44.6% และช่วยลดเลือนริ้วรอยหมองคล้ำ รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 48-50%
นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีนาโนขั้นสูง ทำให้ B GOLDTM มีความเสถียรสูง ทำให้สามารถเก็บรักษาได้นาน รวมทั้งยังมีปริมาณฟลาโวนอยด์สูงสุด ส่งผลให้ B GOLDTM มีประสิทธิภาพสูงกว่าสารสกัดทั่วไป ผ่านการวิจัยประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากศูนย์นาโนเทค ทำให้สามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัยและคุณภาพ รวมถึงยังมีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และยกระดับมูลค่าของกระชายดำไทย พร้อมทั้งส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ธรรมชาติของประเทศอีกด้วย
นางสาวธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SNPS กล่าวเพิ่มเติมว่า B GOLDTM เป็นการเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบทางการเกษตรมูลค่าสูง ส่งผลถึงการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย และในปัจจุบัน SNPS อยู่ระหว่างลงนามสัญญาทางการค้ากับบริษัทชั้นนำระดับโลกในหลากหลายประเทศเพื่อส่งมอบ B GOLDTM สู่ผู้ผลิตเครื่องสำอางและเวชสำอาง อาทิ ประเทศฝรั่งเศส เกาหลี อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น อินเดีย สหราชอาณาจักร เยอรมัน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
จากการขยายตลาด B GOLDTM ไปในต่างประเทศ ทำให้จะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย และยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล ซึ่งการพัฒนา B GOLDTM ถือว่าสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ BCG ของประเทศ ที่เน้นถึงการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติคุณภาพสูง
สำหรับ SNPS เป็นผู้วิจัย และส่งมอบสารออกฤทธิ์มาตรฐานจากธรรมชาติและสมุนไพรไทย (API:Active Phyto-Innovention) กว่า 24 ปีสำหรับอุตสาหกรรมเวชสำอาง (Cosmeceuticals) อาหารเพื่อสุขภาพ (Neutraceuticals), เครื่องดื่ม (Functional beverage), ผลิตภัณฑ์ยา (Herbaceuticals) และส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพผิวพรรณ (Natural additives) และเป็นผู้นำในการสกัดสารสกัดมาตรฐานสมุนไพรไทย (Standardized Herbal Extract) ที่มีการควบคุมคุณภาพมาตรฐานการผลิต ทำให้สามารถกำหนดปริมาณสารสำคัญหรือสารออกฤทธิ์ให้มีความเสถียร ทำให้วัตถุดิบจาก SNPS มีคุณภาพระดับสากล สามารถนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรมหลากหลายประเทศทั่วโลก อาทิ ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องดื่มสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร และ น้ำมันสกัดและน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรด้วยเครื่องมืออันทันสมัย และการควบคุมมาตรฐานอย่างเข้มงวด สร้างมาจากพื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบันอยู่เสมอ กระบวนการผลิตของเราได้ผ่านการควบคุมทุกขั้นตอนอย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และคุณภาพที่ดีที่สุดก่อนถึงมือลูกค้า
ด้าน นางอุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทค กล่าวว่า ทั่วโลกก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบแล้ว รวมทั้งประเทศไทย ทำให้วัยทำงานมีจำนวนลดลง ส่งผลให้มีผลิตภาพแรงงานน้อยลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ทำให้ สวทช.ผลักดันแผนงาน S&T for Sustainable Thailand สำหรับเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงวัยของ สวทช. มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการผลิตสารสกัดเพิ่มมูลค่าเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและความงามอย่างยั่งยืน เช่น การต่อยอดสารสกัดกระชายดำ, นวัตกรรมชุดตรวจคัดกรอง ติดตามโรคไตเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน รวมไปถึง Digital Healthcare Platform, แพลตฟอร์มสนับสนุนการเข้าถึงสารสนเทศและการสื่อสารของคนพิการและผู้สูงอายุ นอกจากนี้ สวทช. โดย นาโนเทคเองก็มีกลไกการขับเคลื่อนเพื่อการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและโครงสร้างพื้นฐาน (R&D & infrastructure utilization) ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ภายใต้บทบาท solution partner อีกด้วย
ขณะที่ นายอุดม อัศวาภิรมย์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยการห่อหุ้มระดับนาโน นาโนเทค สวทช. กล่าวว่า นวัตกรรมการผลิตสารสกัดเพิ่มมูลค่าเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและความงามอย่างยั่งยืน เป็น 1 ใน BCG Implementation ของ สวทช. เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและความงามอย่างยั่งยืน และเพิ่มมูลค่าสารสกัดมาตรฐานจากสมุนไพรโดยมีสมุนไพรนำร่อง 3 ชนิด ได้แก่ กระชายดำ บัวบก และกะเพรา เพื่อตอบโจทย์เกษตรกรผู้ปลูก เอกชนผู้ผลิต-จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร และผลักดันให้เกิด "Hub of Thai Herbal Extract" ในการส่งเสริมพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและคว้าโอกาสตลาดสมุนไพรให้กับประเทศอย่างยั่งยืน
"กระชายดำ (Kaempferia parviflora) ถูกนำมาเป็นยาบำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะทำให้แข็งแรง แก้ปวดเมื่อย และอาการเหนื่อยล้า และยังมีฤทธิ์ทางเภสัชกรรมมากมาย เช่น ฤทธิ์ต้านการอักเสบ สมานแผลในกระเพาะอาหาร ขยายหลอดเลือดและต้านจุลินทรีย์ที่ก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร และยังเพิ่มการไหลเวียนในโลหิตได้ด้วย การเติบโตจากแนวโน้มของการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น จึงนำมาสู่แนวคิดในการวิจัยพัฒนาสารสกัดกระชายดำมาตรฐาน (Standardized Extract) รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับสุขภาพ เพื่อการยับยั้งกระบวนการแก่ของเซลล์ (anti-aging) เพื่อการผลักดันเป็น Thailand herbal champion อย่างเป็นรูปธรรม" นายอุดม กล่าว