นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ณุศาศิริ (NUSA) กล่าวว่า ปัจจุบันคดีความต่างๆ ที่บริษัทต้องเผชิญเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิม มีแนวโน้มแก้ไขปัญหาไปในทางที่ดีและมีความคืบหน้าไปกว่า 70% แล้ว ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาแนวทางจับมือกับพันธมิตรใหม่เพื่อลงทุนธุรกิจ Healthcare และการรีแบรนด์ ภายใต้การนำทีมของผู้บริหารที่มีแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบมืออาชีพและมากประสบการณ์ทั้งการเป็นเจ้าของ ผู้พัฒนา และนักบริหารอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
สำหรับแผนธุรกิจภายใต้การบริหารงาน และนำทีมโดย นายรองฤทธิ์ ธรรมสถิต ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นมือกลยุทธ์ที่เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และมีประสบการณ์ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มากว่า 20 ปี โดย NUSA ดึงมาร่วมงาน โดยสามารถขายปิด (sold out) ได้ 2 โครงการและสร้างยอดขายรอโอนกว่า 300 ล้านบาทในรอบเวลาเพียง 3 เดือน ล่าสุด บริษัทได้เตรียมงบประมาณในการซื้อที่ดินเพื่อให้พร้อมสำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่แล้ว
และในส่วนของกลุ่มธุรกิจบริการ รีสอร์ทและโรงแรม ได้มีแนวทางการตลาดหรือเพิ่มกลุ่มเป้าหมายไปยังตลาดลูกค้าอินโดนีเซีย มาเลเซีย และกลุ่มตะวันออกกลาง รวมไปถึงการพักอาศัยแบบ Long stay เป็นตัวเสริม ซึ่งทำให้อัตราเข้าพักไม่ลดลงในช่วง Low season และพร้อมทั้งดึง Chain โรงแรมระดับ 5 ดาวมาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจทั้งโรงแรมในเขาใหญ่และภูเก็ต
"ณุศาศิริ หลังการเข้ามาบริหารอย่างเต็มตัว เรามีสินทรัพย์เพียงพอ เตรียมเอาที่ดินเดิมมาพัฒนาเพิ่ม ทั้งยังได้เงินทุนหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาทจากกลุ่มวินด์ เอนเนอร์ยี่ มาเสริม ซึ่งเชื่อว่าเพียงพอต่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ผ่านทีมงานและผู้บริหารมืออาชีพมากประสบการณ์
ผนวกกับคณะกรรมการและทีมบริหารใหม่ของเรา มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแผนธุรกิจ แผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนำกระบวนการบริหารงานที่เป็นสากลมาปรับใช้สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจ เพื่อนำความเชื่อมั่นจากผู้ถือหุ้น นักลงทุน และหน่วยงานกำกับดูแลกลับคืนมาโดยเร็ววัน" นายณัฐพศิน กล่าว