นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) เปิดเผยถึง แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/67 และในครึ่งปีหลัง คาดจะเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายไบโอดีเซล (B100) มีความต้องการและปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากที่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เข้าซื้อหลักทรัพย์ บมจ.บางจาก ศรีราชา (BSRC) สนับสนุนให้ความต้องการที่เข้ามาเพิ่มขึ้น
ขณะที่การใช้อัตรากำลังการผลิตในปีนี้ปรับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีการใช้อัตรากำลังการผลิตทะลุ 100% ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลสัญญาณดี ในไตรมาส 2/67 มีรายได้และกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จากปริมาณขายที่ปรับเพิ่มขึ้นตามแผนบริหารการขาย อย่างไรก็ดี มองแนวโน้มไตรมาส 3/67 ทิศทางยังเป็นบวก
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการซื้อหุ้น บริษัท บีบีจีไอ ไบโอดีเซล จำกัด (BBGI-BI) จำนวน 844,500 หุ้น หรือคิดเป็น 30% ของทุนจดทะเบียนจากผู้ถือหุ้นอื่นของ BBGI-BI คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 4/67 ซึ่งจะทำให้บริษัทถือหุ้นใน BBGI-BI ทั้ง 100% ของทุนจดทะเบียน และทำให้บริษัทถือหุ้นโรงงานไบโอเอทานอลและไบโอดีเซล ครบ 100% ทุกโรงงาน เป็นการเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ Supply Chain Optimization รองรับความต้องการของกลุ่ม BCP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเป็นกลยุทธ์สำคัญของบริษัทฯ ในการเสริมสร้างสมรรถนะของ BBGI ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) ชั้นนำของประเทศไทย และจะส่งเสริมส่วนแบ่งตลาดไบโอดีเซลในเชิงปริมาณยอดขายพร้อมเติบโตควบคู่ไปกับกิจการในกลุ่มบริษัทบางจาก ทั้งนี้ กำลังการผลิตไบโอดีเซลตามสัดส่วนการถือหุ้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000,000 ลิตรต่อวัน จากเดิม 700,000 ลิตรต่อวัน อีกทั้ง สนับสนุนให้มีอัตราการใช้กำลังการผลิตและประสิทธิภาพในการผลิตตลอดจนบริหารเครือข่ายในการจัดหาเชื้อเพลิงชีวภาพได้อย่างเหมาะสม
ส่วนโครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) และ โรงงานเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง (CDMO) ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง ปัจจุบันมีความคืบหน้าทั้ง 2 โครงการกว่า 50% คาดทั้งสองธุรกิจใหม่จะเข้ามาสร้างฐานการเติบโต และพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ต้นปี 68 ตามแผนที่วางไว้