นายเว่ย แซม แลม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ร็อคเทค โกลบอล (ROCTEC) กล่าวว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ หลังจากเปลี่ยนผ่านจาก บมจ.มาสเตอร์ แอด (MACO) ภายใต้กลุ่ม บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ Out-of-Home มาสู่ธุรกิจด้าน ICT Solutions บริการงานวางระบบโครงข่ายขั้นพื้นฐาน Transportation Solutions บริการงานวางระบบสื่อสารในธุรกิจคมนาคม และ Digital Display Solutions บริการจัดหา ติดตั้งหน้าจอดิจิทัล และวางระบบ Software ครบวงจร
จุดเด่นของบริษัทที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น คือ การมีประสบการณ์มากกว่า 30 ปีในธุรกิจงานระบบด้านการขนส่งสาธารณะ (Transportation Solution) ทั้งงานด้านระบบรางและงานท่าอากาศยาน โดยมีประสบการณ์ให้บริการในฮ่องกง ได้แก่ บริการ Transportation Solution ของ MTR ฮ่องกง และสนามบินฮ่องกง รวมทั้งยังมีการพัฒนาจากภายในบริษัทบริษัทที่จะช่วยนำเสนอ Solution และพัฒนาบริการเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าแต่ละรายที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเข้ามาขยายธุรกิจในประเทศไทยของ ROCTEC ภายใต้กลุ่ม BTS บริษัทมองเห็นถึงโอกาสและศักยภาพในการขยายงานด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการให้บริการขนส่งสาธารณะในประเทศไทยที่มีการขยายตัวสูง และเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีความต้องการใช้ Solution ที่เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการเดินทาง การขนส่งสาธารณะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม BTS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าที่มีความต้องการใช้เทคโนโลยีใหม่เข้ามาอำนวยความสะดวก และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับผู้ใช้บริการ รวมถึงช่วยในการลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการเดินรถไฟฟ้า
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลักของ ROCTEC มาจากประเทศฮ่องกงเป็นหลัก โดยเฉพาะจากฐานลูกค้า MTR ฮ่องกง และสนามบินฮ่องกง ทำให้สัดส่วนรายได้ที่มาจากฮ่องกงอยู่ที่ 70% และสัดส่วนรายได้ในประเทศไทยอยู่ที่ 30% ซึ่งรายได้จะมาจาก 3 ส่วน ได้แก่ 1. Transportation Solutions 2. Integrated Technology Solutions และ Digital Display Solutions ซึ่งเป็นรายได้หลักราว 75% และอีก 15% จะมาจากรายได้ธุรกิจป้ายโฆษณา Out-of-Home ตามเสาตอหม้อรถไฟฟ้า BTS ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งรายได้ที่มาจากการบริหารของ บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) และหากแยกออกเป็นรายได้ประจำจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 25% และส่วนที่เหลืออีก 75% จะมาจากรายได้จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และ Solutions ให้กับโครงการที่ให้บริการ
ขณะที่เป้าหมายของบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้าคาดหวังจะได้เห็นการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องแต่ละปีเป็นตัวเลข 2 หลัก โดยยังคงเน้นไปที่การเติบโตด้วยการขยายธุรกิจของบริษัทเองเป็นหลัก ผ่านการเข้าไปประมูลงาน และทำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้กับโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการขนส่งสาธารณะ รวมถึงในอนาคตหากโครงการพัฒนาเมืองการบินอู่ตะเภาของกลุ่ม BTS เดินหน้าลงทุนและเปิดให้บริการ จะเป็นรปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนผลการดำเนินงานของบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ นายเว่ย แซม แลม กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในงวดปี 67/68 จะเติบโตได้ 20% จากปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นมาที่ 2.6 พันล้านบาท และยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ เพื่อเข้ามารองรับรายได้ในอนาคต โดยในช่วง 5 เดือนของผลการดำเนินงานงวดปี 67/68 (เม.ย.-ส.ค. 67) มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ราว 50% ของยอดที่ตั้งเป้าไว้ในปีนี้
ด้านงบลงทุนของบริษัทในปีนี้วางไว้ที่ 100 ล้านบาท เพื่อรองรับการเปลี่ยนจอโฆษณา จาก Light Box เป็น LED จำนวน 40 จอ ส่วนงบลงทุนอื่นๆบิษัทยังไม่มีแผนการลงทุนใดๆ และเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจด้วยโมเดลธุรกิจแบบ asset-light เป็นหลัก