บมจ.สิงห์ เอสเตท (S) เปิดเผยว่า บริษัท ยูนิเทค พีซีบี (ไทยแลนด์) จำกัด วางศิลาฤกษ์ บริษัท ยูนิเทค พีซีบี (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก ณ นิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง บนพื้นที่ 56 ไร่ เพื่อเป็นฐานในการผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ส่งออกไปทั่วโลก โดยได้ลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินไปเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา ระหว่างบริษัท เอส อินดัสเทรียล เอสเตท จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ในเครือ S กับ ยูนิเทค พีซีบี (ไทยแลนด์)
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร S กล่าวว่า นิคมฯ เอส อ่างทอง มีทำเลที่ตั้งอันเป็นยุทธศาสตร์ เพียบพร้อมด้วยระบบสาธารณูปโภคที่มั่นคงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐานที่เพียบพร้อมนี้สามารถรองรับฐานการผลิตให้กับลูกค้าได้อย่างครบถ้วนในการขยายธุรกิจให้เข้าสู่มาตรฐานระดับโลกต่อไป
ปัจจุบันการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB และ PCBA) ในประเทศไทยขยายตัวขึ้น ด้วยปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ต่างๆ ส่งผลให้เกิดการย้ายฐานการผลิตสู่ประเทศที่มีเสถียรภาพ รวมไปถึงทิศทางความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วของโลก และด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐ รวมทั้งศักยภาพของประเทศไทย ทำให้มีบริษัทต่างๆ เริ่มเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยมากขึ้น
การซื้อที่ดินในทำเลศักยภาพที่นิคมฯ เอส อ่างทอง ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำจุดแข็งของประเทศไทย ในการดึงดูดนักลงทุนอุตสาหกรรมรายใหญ่จากประเทศต่าง ๆ สิงห์ เอสเตท มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตด้านอุตสาหกรรมสมัยใหม่อันดับต้นของโลก สร้างรายได้ให้กับชุมชน และสังคม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เติบโต ตามวิชั่นส์ในการดำเนินธุรกิจ ENTRUSTED AND VALUE ENRICHER ของสิงห์เอสเตท ที่มุ่งสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน พร้อมทั้งรักษาความสมบูรณ์ด้านสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ต่อไป
นายกำจร ลีประพันธ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส อินดัสเทรียล เอสเตท จำกัด กล่าวว่า นิคมฯ เอส อ่างทอง เป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และชุมชนโดยรอบ ด้วยพลังงานทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูง ลดต้นทุนการผลิต และลดการปล่อยคาร์บอน ที่พร้อมรองรับการผลิตที่ต้องการมาตรฐานระดับโลก โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 3 โรง ขนาดกำลังการผลิตรวม 403 เมกกะวัตต์ พร้อมระบบจ่ายไฟฟ้า 22 KV และ 115 KV ที่สามารถรองรับผู้ประกอบการที่มีความต้องการไฟฟ้าในปริมาณมากและมีเสถียรภาพสูง, น้ำประปาที่มีคุณภาพสูง สะอาด ด้วยระบบอัลตร้าฟิลเทรชั่น ซึ่งสามารถผลิตน้ำได้ถึง 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน, ระบบบำบัดน้ำเสียสามารถรองรับและบริหาร จัดการน้ำเสียได้ 6,610.9 ลบ.ม./วัน และบ่อพักน้ำทิ้งขนาดใหญ่จำนวน 2 บ่อ พื้นที่รวมกว่า 13,000 ลูกบาศก์เมตร ระบบบริหารจัดการกากตะกอนที่ได้ตามมาตรฐานตามข้อกำหนดของกระทรวงอุตสาหกรรม ระบบเครือข่ายโทรคมนาคม 5G และอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ครอบคลุมทุกพื้นที่โครงการ ระบบดับเพลิงนิคมฯ จัดให้มีระบบหัวดับเพลิงในทุกพื้นที่รอบนิคมฯ อีกทั้งประสานงานและเตรียมความพร้อมร่วมกับสถานีดับเพลิงของ อำเภอไชโย ในการฝึกซ้อมและดูแลความปลอดภัย และที่สำคัญคือ มีแรงงานจำนวนมาก รองรับการความต้องการของผู้ประกอบการ