ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดภาคเช้า 1,363.36 จุด ลดลง 1.24 จุด (-0.09%) มูลค่าซื้อขายราว 20,149 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีปรับตัวลงรับแรงกดดันจากภายนอกประเทศ โดยทำระดับสูงสุด 1,366.15 จุด และต่ำสุด 1,355.31 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับลงรับแรงกดดันจากภายนอกประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงจากแรงเทขายหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) และดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 47.5 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
แต่ตลาดหุ้นบ้านเราถือว่าลงน้อยกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องด้วยได้แรงหนุนจากปัจจัยในประเทศหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ คาดว่าจะมีการประชุมนัดพิเศษในวันที่ 10 ก.ย. และแถลงนโยบายได้ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ จากนั้นน่าจะประชุม ครม.นัดแรกวันที่ 17 ก.ย.67
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดฯ แกว่งในกรอบ แนะติดตามการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐ
ให้แนวรับที่ 1,355 จุด และแนวต้าน 1,365 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 855.17 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 787.10 ล้านบาท ปิดที่ 42.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 770.58 ล้านบาท ปิดที่ 19.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 752.11 ล้านบาท ปิดที่ 5.95 บาท ลดลง 0.15 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 717.89 ล้านบาท ปิดที่ 105.50 บาท ลดลง 1.00 บาท