นายเชน เหล่าสุนทร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง (WPH) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 67 ยังคงมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากโรงพยาบาลเดิม ทั้งโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง, โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง และโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ สมุย ทำผลงานดีต่อเนื่อง หลังมีการขยายความสามารถในบริการทางการแพทย์ ทั้งการขยายเฟสการลงทุนครอบคลุมถึงการดูแลโรคที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุและโรคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น การขยาย ICU, ห้องปฏิบัติการตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ (Cath Lab) รวมทั้งการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการรักษาและฟื้นฟูร่างกาย เช่น การบำบัดด้วยออกซิเจนความกดบรรยากาศสูง หรือ Hyperbaric oxygen therapy เป็นต้น
"ทิศทางรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ช่วง High Season โดยในช่วงเมื่อเข้าสู่ไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วง High Season ทิศทางรายได้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากโรคที่มาจากฤดูฝน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ และมีการเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4 ซึ่งเข้าสู่ช่วง High Season ของผู้ป่วยต่างชาติ สถิติของอัตราการครองเตียง(Occupancy Rate)โดยปกติของกลุ่มโรงพยาบาลเรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ไตรมาส 3 > ไตรมาส 4 >ไตรมาส 1 > ไตรมาส 2" นายเชน กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เตรียมขยายพอร์ตรับผู้ป่วยประกันสังคมเพิ่มเติมเป็นครั้งแรก ซึ่งปัจจุบันมีการเตรียมความพร้อมที่เกี่ยวข้องรองรับไว้หมดแล้ว โดยจะเริ่มให้บริการที่โรงพยาบาล วัฒนแพทย์สมุย และเริ่มมีการให้บริการกลุ่มผู้ป่วยประกันสังคมเฟสแรกในต้นปี 2568
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างห้องพักผู้ป่วยเพื่อรองรับช่วง High Season ในโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI 3 ปี ได้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนก.ค.67 ที่ผ่านมา
บริษัทฯ มั่นใจรายได้รวมทั้งปีจะเติบโตมากกว่า 30% จากปัจจัยจากการเติบโตของการท่องเที่ยวและโรคซับซ้อนตามฤดูกาล ส่งผลทำให้จำนวนผู้ป่วยทั้งต่างชาติและคนไทยมาใช้บริการเพิ่มขึ้น และตั้งเป้ารายได้ปี 70 โตแตะระดับ 4,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ความร่วมมือกับ บมจ.เอกชัย การแพทย์ (EKH) เพื่อลงทุนประกอบธุรกิจโรงพยาบาลคูน อ่าวนาง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุ รองรับลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงรองรับเทรนด์ Wellness ที่กำลังมาแรง คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3/68 (ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ยาว 5 ปี) ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ของกลุ่มบริษัท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง