นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) กล่าวว่า จากความสำเร็จจากการบริการศูนย์การค้าให้เช่าดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตราการเช่าพื้นที่ในระดับสูง บริษัทฯ มีแผนที่จะสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงินมากขึ้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างขั้นตอนพิจารณาทางเลือกในการขายโครงการรีเทลผ่านการเสนอขายเหรียญดิจิทัลให้นักลงทุน หรือ ICO (Initial Coin Offering) ด้วยการลงทุนโทเคนดิจิทัลที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินอ้างอิง โดยเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้มีส่วนร่วมในโครงการไฮไลท์ของบริษัทฯ มูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท ชูโครงการ "ซัมเมอร์ พ้อยท์" ตั้งอยู่ทำเลใจกลางเมืองติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง ที่มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 96% โดยมี บริษัท เดอะ อิชชูเออร์ จำกัด ผู้ออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน และอยู่ระหว่างเตรียมยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เร็วๆ นี้
นอกจากนี้ BC อยู่ระหว่างการจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เป็นเครื่องมือในการระดมทุน เพื่อนำเงินไปใช้หรือพัฒนาโครงการใหม่ทำให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนและได้รับผลประโยชน์จากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกระจายความเสี่ยงธุรกิจในอนาคต
นายปรับ กล่าวว่า แผนงานครึ่งปีหลังอนาคตสดใส เห็นแนวโน้มการเติบโตที่ดี จากกลุ่มธุรกิจ Hospitality โดยเฉพาะกลุ่มศูนย์การค้าให้เช่า(รีเทล) ที่ประสบความสำเร็จ หลังเปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพทีมบริหารอสังหาริมทรัพย์ ลุยกลยุทธ์เชิงรุกและสร้างผลประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายได้อย่างแข็งแกร่ง
ล่าสุด ปักหมุดเปิดให้บริการโครงการใหม่ โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) พฤศจิกายนนี้ ด้วยอัตราผู้เช่าพื้นที่กว่า 64% หวังเป็นศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้แห่งใหม่ในย่านเจริญกรุงที่จะดึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มไว้ในที่เดียว ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ติดกับโรงเรียนนานาชาติ เป้าหมายจากกลุ่มผู้ปกครองรวมถึงนักเรียนที่จะสามารถมาทำแอคทิวิตี้ต่างๆร่วมกันได้ในหลากหลายสไตล์ โดยมีร้านไฮไลท์ แบ่งเป็นร้านค้า 18 ยูนิต ที่ประกอบไปด้วยร้านอาหาร โซนการศึกษา โซนส่งเสริมและดูแลสุขภาพ อาทิ VE/la Kowloon Diner, JIAN CHA, CHALACHOL BANGKOK, Peninsula Tailors และ Lumilux Clinic เป็นต้น
ในช่วงที่ผ่านมา โครงการ โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) ประสบความสำเร็จ ผ่านการขายหุ้นสามัญ ในบริษัท บูทิค เจริญกรุง โฮลดิ้งส์ จำกัด (BCRKH) ที่สัดส่วนร้อยละ 50 มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการขายสินทรัพย์ตามโมเดลธุรกิจของบริษัทฯ และเป็นหนึ่งในปัจจัยสนับสนุนให้ BC สามารถพลิกเทิร์นอะราวด์ในไตรมาส 2/2567 มีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทเกือบ 37 ล้านบาท รายได้อยู่ที่ 165 ล้านบาท เติบโตถึง 110% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ โครงการที่อยู่ในการดำเนินการ (Operate) คาดว่าในปีนี้กลุ่มโรงแรมจะกลับมาคึกคักกว่าเดิม จากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 33% ยอดสะสมรวม 20,604,703 คน ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-28 ก.ค.67 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นับเป็นแนวโน้มที่ดี ซึ่ง BC มีโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวทำเลศักยภาพทั้งในเชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา และกรุงเทพฯ ซึ่งมีจำนวนอัตราการเข้าพักที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ว่าภาพรวมในกลุ่ม Hospitality ในปีนี้จะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่กำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวในปลายปีนี้
ในส่วนของการขายออกโครงการ (Sale) มีผู้ลงทุนเข้ามาติดต่อเพื่อซื้อโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างเจรจาเพื่อปิดดีลที่เป็นประโยชน์ที่สุดให้กับกลุ่มบริษัทมากที่สุด ตามโมเดลธุรกิจ BOS ซึ่งคาดว่าจะปิดดีลบุ๊ครายได้ก้อนใหญ่เข้ามาหนุนรายได้เพิ่มขึ้น