SCB EIC มองภาพก่อสร้างปีหน้าฟื้นชัด แนะผู้รับเหมาปรับตัวผนึกพันธมิตรรับเทรนด์รักษ์โลก-ชูเทคฯลดต้นทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 10, 2024 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SCB EIC มองภาพก่อสร้างปีหน้าฟื้นชัด แนะผู้รับเหมาปรับตัวผนึกพันธมิตรรับเทรนด์รักษ์โลก-ชูเทคฯลดต้นทุน

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) มองภาคการก่อสร้างภาครัฐปี 67 มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี หลังจากงบประมาณประจำปี 67 ประกาศใช้ สำหรับปี 68 มูลค่าการก่อสร้างภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัว 3%

ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 67 การก่อสร้างภาครัฐเผชิญความท้าทายจากความล่าช้าในการจัดทำงบประมาณประจำปี 67 เนื่องจากเป็นปีที่มีการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ส่งผลให้อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมในช่วง 4 เดือนแรกของปี 67 อยู่ในระดับต่ำกว่าปีปกติมาก

อย่างไรก็ดี การประกาศใช้งบประมาณประจำปี 67 ในเดือนพ.ค. 67 ได้ส่งผลให้อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมเร่งตัวขึ้น และฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 63 ซึ่งเป็นปีที่การจัดทำงบประมาณประจำปีมีความล่าช้าเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 63 การก่อสร้างภาครัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จากการเบิกจ่ายงบลงทุนที่เร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3/67 ซึ่งเป็นช่วงท้ายของปีงบประมาณ

สำหรับปี 68 หากการจัดทำงบประมาณสามารถดำเนินการได้ทันประกาศใช้ภายในเดือนก.ย. 67 หรือล่าช้าออกไปจากนี้ไม่มากนัก และมีการเร่งเบิกจ่ายได้ทัน ก็จะเป็นปัจจัยหนุนการก่อสร้างภาครัฐในปีหน้า โดยคาดว่ามูลค่าการก่อสร้างภาครัฐในปี 68 มีแนวโน้มขยายตัว 3% ซึ่งผู้รับเหมาก่อสร้างที่รับงานโครงการก่อสร้างภาครัฐเป็นหลักมีโอกาสเข้าประมูลโครงการก่อสร้างภายใต้งบประมาณประจำปี 68

และหน่วยงานต่างๆ มีแผนเตรียมเสนอเปิดประมูลโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านการคมนาคม คาดว่าจะมีโครงการที่เปิดประมูลในปี 67 และ 68 เช่น รถไฟทางคู่ เฟส 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย มอเตอร์เวย์สาย 9 วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก ซึ่งจะทยอยหนุนให้เกิดเม็ดเงินจากโครงการก่อสร้างภาครัฐในปี 68 เป็นต้นไป

"นับเป็นโอกาสสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ในการเข้าประมูลโครงการ และส่งผลต่อเนื่องให้ผู้รับเหมาก่อสร้างรายกลางและเล็ก ในฐานะผู้รับเหมาช่วงมีโอกาสในการสร้างรายได้มากขึ้น และมีสภาพคล่องที่ดีขึ้นกว่าปี 67" SCB EIC ระบุ

นอกจากนี้ ยังมีโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านการคมนาคมที่กำลังดำเนินการศึกษา และอยู่ระหว่างการขออนุมัติดำเนินโครงการ เช่น รถไฟทางคู่ เฟส 2 ช่วงต่างๆ รถไฟฟ้าสายใหม่และส่วนต่อขยายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะทยอยหนุนให้เกิดเม็ดเงินก่อสร้างจากโครงการก่อสร้างภาครัฐในระยะปานกลางอีกด้วย

ขณะที่มูลค่าการก่อสร้างภาคเอกชนในปี 68 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 1% โดยโครงการที่อยู่อาศัยเผชิญแรงกดดันจากการฟื้นตัวช้าของตลาดที่อยู่อาศัย รวมถึงยังต้องจับตาภาวะ ของอุปทานพื้นที่สำนักงานให้เช่า ที่อาจส่งผลให้เกิดการยกเลิกโครงการที่ไม่มีศักยภาพออกไป การก่อสร้างภาคเอกชนในส่วนของการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัย เผชิญแรงกดดันจากการฟื้นตัวช้าของตลาดที่อยู่อาศัย ทั้งหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง อุปสรรคในการเข้าถึงสินเชื่อ และราคาที่อยู่อาศัยใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นความท้าทายต่อการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ โดยเฉพาะโครงการกลุ่มระดับราคาปานกลางลงมา

ในระยะที่ผ่านมาผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยหันมาเปิดโครงการกลุ่มระดับราคาปานกลาง-บนมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าโครงการที่อยู่อาศัเปิดตัวใหม่ปรับตัวสูงขึ้น โดยนอกจากจะมาจากราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว อีกส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนค่าก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นตามรูปแบบโครงการที่อยู่อาศัยที่เป็นกลุ่มระดับราคาปานกลาง-บน ซึ่งจะช่วยหนุนให้เกิดเม็ดเงินสะพัดจากกิจกรรมการก่อสร้างภาคเอกชน ที่มาจากการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัย แม้จำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่จะลดลงก็ตาม

ในส่วนของการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขยายโครงการพื้นที่ค้าปลีก และโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ในทำเลย่านธุรกิจ และย่านท่องเที่ยว รวมถึงพื้นที่สำนักงานให้เช่าเกรด ส่งผลให้อุปทานพื้นที่ค้าปลีก และอุปทานพื้นที่สำนักงานให้เช่ายังมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกราว 1 ล้านตารางเมตรในปี 68 แตะระดับ 19.1 ล้านตารางเมตร

อีกทั้ง เมื่อพิจารณาแผนการเปิดโครงการของผู้ประกอบการ ประเมินว่า ในปี 68-70 อุปทานพื้นที่ค้าปลีก และอุปทานพื้นที่สำนักงานให้เช่ายังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ยที่ 0-2% และ 2-4% ต่อปี ตามลำดับ เป็นปัจจัยหนุนให้เกิดเม็ดเงินจากกิจกรรมการก่อสร้างภาคเอกชนอย่างต่อเนื่องในระยะปานกลาง แต่ยังต้องจับตาภาวะ ของอุปทานพื้นที่สำนักงานให้เช่า ที่อาจส่งผลให้เกิดการยกเลิกโครงการที่ไม่มีศักยภาพออกไป ซึ่งนับเป็นความเสี่ยงต่อการก่อสร้างภาคเอกชนในระยะข้างหน้า

ผู้รับเหมาก่อสร้างกลุ่มที่มีศักยภาพในการแข่งขัน เป็นกลุ่มที่มีความร่วมมือกับพันธมิตร ซึ่งสามารถเข้าประมูลงานได้อย่างหลากหลาย สามารถควบคุมต้นทุน และปรับกลยุทธ์รับเทรนด์การก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีความสามารถในการแข่งขันเข้าประมูลงานโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ยังคงเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการก่อสร้างสูง รวมถึงมีศักยภาพในดำเนินโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐ และเอกชน (อย่างไรก็ตาม ความล่าช้าในการเปิดประมูลงานโครงการก่อสร้างภาครัฐใหม่ๆยังเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ ทั้งในปี 67 และระยะต่อไป

ดังนั้น ผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์องค์กรให้สามารถปรับการรับงานโครงการก่อสร้างภาครัฐและเอกชนได้อย่างสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป จะเป็นกลุ่มที่สามารถรักษารายได้ และสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ อีกทั้ง การแข่งขันที่รุนแรงในการเข้าประมูลงานโครงการก่อสร้าง ยังส่งผลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างกลุ่มที่มีศักยภาพในการแข่งขัน เป็นกลุ่มที่มีการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร ซึ่งสามารถเข้าประมูลงานโครงการก่อสร้างได้อย่างหลากหลาย

นอกจากนี้ผู้รับเหมาก่อสร้างกลุ่มที่มีศักยภาพในการแข่งขัน ยังรวมถึงกลุ่มที่สามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างในการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ และอาคารขนาดใหญ่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการที่อยู่อาศัย โครงการมิกซ์ยูส พื้นที่ค้าปลีก อาคารสำนักงาน โรงงาน ตั้งแต่ระดับโครงการอสังหาริมทรัพย์ และอาคารประหยัดพลังงาน ไปจนถึงระดับโครงการที่ขอรับมาตรฐานด้านความยั่งยืน เช่น และอาคารเขียวตามมาตรฐานด้านความยั่งยืน

สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างรายกลางและเล็กกลุ่มที่มีศักยภาพในการแข่งขัน จะเป็นกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างที่สามารถดำเนินโครงการก่อสร้าง และส่งมอบงานให้แล้วเสร็จตามแผน ซึ่งนอกจากจะสามารถเบิกจ่ายค่างวดงานได้ตามกำหนด สามารถรักษารายได้และสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจได้แล้ว ยังจะรักษาความสามารถในการเป็นผู้รับเหมาช่วงจากผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง จากการที่ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่มีทางเลือกในการว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างรายกลางและเล็กได้อย่างหลากหลายอีกด้วย ทั้งนี้แม้ราคาวัสดุก่อสร้างสำคัญ เช่น เหล็ก ปูนซีเมนต์ จะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในปี 68 และลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะปานกลาง แต่ราคาก็ยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับในอดีต อีกทั้ง ยังมีความผันผวนจากปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาพลังงาน อัตราแลกเปลี่ยน

ประกอบกับต้นทุนแรงงานยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นไปตามการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในระยะข้างหน้า ส่งผลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างกลุ่มที่มีแนวโน้มเผชิญความเสี่ยงสูง จะเป็นกลุ่มที่มุ่งเน้นการใช้กลยุทธ์การเข้าประมูลงานโครงการก่อสร้างแบบแข่งขันด้านราคา ที่อาจเผชิญภาวะขาดทุนจากการดำเนินโครงการก่อสร้าง ขณะที่ผู้รับเหมาก่อสร้างกลุ่มที่มีความสามารถในการควบคุมต้นทุน ด้วยการบริหารจัดการทำสัญญาสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างล่วงหน้าได้อย่างสอดคล้องกับความต้องการใช้ และมีการนำเทคโนโลยีก่อสร้างมาใช้ทดแทนแรงงานพื้นฐานได้จะเป็นกลุ่มที่ยังสามารถรักษาอัตรากำไรไว้ได้

โดยที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์ เป็นแรงกดดันให้ผู้รับเหมาก่อสร้างต้องปรับกลยุทธ์ โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ที่ภาคอาคารและการก่อสร้างมีการปล่อย ในสัดส่วนที่สูงราว 40% ของการปล่อย โดยรวม โดยในส่วนของภาคก่อสร้างนั้น มีการใช้วัสดุก่อสร้างที่มีการปล่อย ในกระบวนการผลิตระดับสูง รวมถึงมีการใช้พลังงาน ทั้งในพื้นที่ก่อสร้าง อาคารสำนักงาน และการขนส่งวัสดุก่อสร้าง อีกทั้ง ยังมีการปล่อยฝุ่น เสียง น้ำเสีย ของเสีย และขยะจากงานก่อสร้างอีกด้วย ทั้งนี้ในปัจจุบันผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่มีการใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ปูนซีเมนต์ ไฮดรอลิก วัสดุก่อสร้างที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล รวมถึงมีการปรับปรุงกระบวนการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการลดของเสียและขยะจากงานก่อสร้าง ใช้เทคโนโลยีก่อสร้าง อย่างเทคโนโลยีก่อสร้างสำเร็จรูป (และ และอุปกรณ์และเครื่องจักรที่ลดการก่อมลภาวะ ขณะที่ผู้รับเหมาก่อสร้างรายกลางและเล็กเริ่มปรับปรุงกระบวนการก่อสร้าง อย่างการลดของเสียและขยะจากงานก่อสร้างแล้ว ในระยะข้างหน้า ยังต้องจับตาข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะเป็นเงื่อนไขในการเข้าประมูลงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างเข้มงวดมากขึ้น

ดังนั้น ผู้รับเหมาก่อสร้างกลุ่มที่สามารถสร้างความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตและผู้ค้าวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน มีการลงทุนนำเทคโนโลยีก่อสร้างที่ลดการก่อมลภาวะมาใช้ ตลอดจนมีการกำหนดเป้าหมาย และตัวชี้วัดการลดการปล่อย ไปจนถึงรายงานผลการดำเนินการลดการปล่อย จะเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างกลุ่มที่มีความสามารถในการแข่งขันการเข้าประมูลงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ได้มากขึ้นในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ