SET ปิดวันนี้ที่ 1,415.41 จุด ลดลง 12.62 จุด (-0.88%) มูลค่าซื้อขายราว 74,02.35 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีฯ ปรับฐานลงแรง ทำจุดสูงสุด 1,428.13 จุด และจุดต่ำสุด 1,405.30 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 135 หลักทรัพย์ ลดลง 387 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 143 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ลงแรงตามตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ที่ปรับลง โดยได้รับแรงกดดันหลักจากกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลุด 70 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลความต้องการใช้น้ำมันโลกชะลอตัว รวมถึงแรงขายทำกำไรหุ้นใหญ่ ทั้ง SCC และกลุ่มค้าปลีก
ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ คืนวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดคาด Headline CPI เดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 2.6% เทียบรายปี และ Core CPI จะเพิ่มขึ้น 3.2% เทียบรายปี หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาดจะเป็นแรงหนุนเฟดลดดอกเบี้ยลงเร็วและแรง ซึ่งจะส่งผลดีต่อเงินทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดภูมิภาคอาเซียน ซึ่งไทยก็จะได้รับอานิสงส์ด้วยเช่นกัน
แนวโน้มวันพรุ่งนี้ตลาดฯมีโอกาสรีบาวด์หลังลงมาแรงทดสอบแนวรับ 1,405 จุดก่อนเด้งขึ้นมาได้บ้าง แนะติดตามนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25%
ให้แนวรับที่ 1,405 จุด และแนวต้าน 1,430 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,699.69 ล้านบาท ปิดที่ 33.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
BH มูลค่าการซื้อขาย 2,843.72 ล้านบาท ปิดที่ 270.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,781.74 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,695.28 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 1.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,563.84 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท