บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) เผยครึ่งปีแรกครองมาร์เก็ตแชร์ลูกค้ารายย่อยติดท็อป 3 พร้อมตั้งเป้าเป็นเบอร์หนึ่งภายใน 3 ปี เผยปีนี้ลูกค้าใหม่เปิดบัญชีเพิ่ม 50% มูลค่าพอร์ตสะสมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท มองช่วงที่เหลือของปีนี้ตลาดหุ้นต่างประเทศยังเติบโตต่อ ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่แม้มีความผันผวนแต่มีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้ง ที่พบว่าสถิติที่ผ่านมาหลังประกาศผลจะตลาดหุ้นจะขานรับในแดนบวก ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงแม้มีแรงกดดันจากเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้าแต่มูลค่ายังต่ำเมื่อเทียบกับโอกาสการเติบโต
มล. ทองมกุฎ ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTX เปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา KTX ได้ขยายบริการไปสู่นักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนไปยังตลาดต่างประเทศด้วยการเปิดแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นต่างประเทศออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน KTX Inter Trade ซึ่งบริการดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เนื่องจาก 6 เดือนแรกของปี 2567 KTX สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดลูกค้ารายย่อยสูงเป็นท็อป 3 ของอุตสาหกรรม โดยมีจำนวนบัญชีใหม่ เติบโตขึ้นกว่า 50% มูลค่าพอร์ตลงทุนสะสมของลูกค้ารวมมีมูลค่ามากกว่า 12,000 ล้านบาท ส่วนภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศของไทยใน 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้ซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศอยู่ที่ 377 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นกว่า 19% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2566
สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ KTX คาดว่า ตลาดที่นักลงทุนไทยไปลงทุนหุ้นต่างประเทศจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย KTX มีมุมมองต่อตลาดต่างประเทศในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 KTX ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะยังคงมีความผันผวน โดยได้รับแรงหนุนจากการตัดสินใจการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จากปัจจัยแนวโน้มเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ดีกว่าคาด แม้มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ แต่จากสถิติตลาดหุ้นสหรัฐฯ ย้อนหลัง มักจะปรับตัวขึ้นหลังผลการเลือกตั้ง ขณะที่ตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย เช่น ตลาดหุ้นฮ่องกง คาดว่ายังคงเผชิญความท้าทายต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ช้ากว่าที่ตลาดคาด แต่ก็ยังมีปัจจัยหนุนจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นระยะ ๆ และเล็งเห็นผลมากขึ้น ประกอบกับตลาดหุ้นยังคุ้มค่าในแง่การประเมินมูลค่าจึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและมองหาโอกาสผลตอบแทนการลงทุนในระยะยาว
"จากผลประกอบการข้างต้น รวมถึงการสร้างมาตรฐานในการให้บริการและดูแลลูกค้าที่ดี และการพัฒนาระบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับกลุ่มลูกค้ารายย่อยให้ขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในการเป็นผู้ให้บริการสำหรับตลาดลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศภายใน 3 ปี" มล. ทองมกุฎ กล่าว