บมจ.เอสอีไอ เมดิคัล (SEI) หุ้นจำหน่ายและให้เช่าเครื่องมือทางการแพทย์แบบครบวงจรกว่า 37 ปี เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 50 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.10 บาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและลงทุนกับบริษัทอื่นในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง พร้อมเดินหน้าจดทะเบียนเพื่อเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในเดือน ก.ย.67
SEI มีประสบการณ์มากว่า 37 ปีในการเป็นผู้แทนจำหน่ายและให้เช่าเครื่องมือทางการแพทย์ วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์แบบครบวงจร (One Stop Service) ให้แก่สถานพยาบาลชั้นนำในประเทศ เป็นสัดส่วนลูกค้าภาครัฐ 70% และที่เหลืออีก 30% เป็นลูกค้าภาคเอกชน
ปัจจุบันแบ่งสินค้าเป็น 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาของชีวิต ได้แก่
1) กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด (Neonatal Care) ซึ่งเป็นกลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ดูแลทารกแรกเกิดปกติ และทารกที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะวิกฤตในระยะแรกหลังคลอด
2) กลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ (Endoscope) เป็นกลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในห้องส่องกล้องสำหรับการตรวจทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจและโสตศอนาสิก
3) กลุ่มสินค้าด้านการผ่าตัด (Surgery) เป็นกลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในห้องผ่าตัด
4) กลุ่มสินค้าอุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ (Laboratory) เป็นกลุ่มเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ใช้ในการตรวจวิเคราะห์ วัดอนุภาค เก็บรักษาตัวอย่าง และบ่มเพาะเชื้อเพื่อการทำวิจัย
5) กลุ่มสินค้าด้านความงาม (Aesthetic) เป็นกลุ่มเครื่องมือ ทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับเสริมความงามทางร่างกาย
นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SEI เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า วัตถุประสงค์การใช้เงินระดมทุนมีทั้งหมด 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งวางแผนไว้ว่าจะมานำใช้ขยายธุรกิจให้เช่าเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีการเติบโตค่อนข้างดี ขณะเดียวกันก็จะนำไปขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ หานวัตกรรมหรือซัพพลายเออร์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม เพื่อมาตอบโจทย์ลูกค้าให้มากขึ้น
และเงินระดมทุนส่วนที่สองจะใช้สำหรับร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อต่อยอดจากธุรกิจเดิมที่เรามีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ซึ่งอาจเป็นคลินิกหรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง เพื่อสร้าง Synergy กับผลิตภัณฑ์และความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ที่ช่วยเสริมศักยภาพและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ
สำหรับแผน 3-5 ปี บริษัทประเมินอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์ในไทยจะเติบโตได้ดี จากปัจจัยเรื่องสังคมผู้สูงอายุ ที่จะมีการใช้บริการทางการแพทย์มากขึ้น ขณะที่ประเทศไทยก็ยังเป็น Hub ของ Medical Tourism มีคนจากทั่วโลกเดินทางเข้ามารับบริการจำนวนมาก ซึ่งภาครัฐก็มีมาตรการส่งเสริมตรงนี้ ก็เป็นประโยชน์กับธุรกิจเรา
นายกานต์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าแค่ 5 กลุ่ม ฉะนั้นยังมีอีกหลายแผนกในโรงพยาบาลให้เราเข้าไปเติบโตอีกมหาศาล เราอาจจะมีการเฟ้นหาพันธมิตรในกลุ่มสินค้าอื่น ๆ เพิ่มก็ดี หรือว่านำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่มเดิมที่เรามีอยู่แล้วก็ดี ซึ่งก็จะทำให้เราเติบโตได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการสร้างรายได้จากการให้เช่าเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์แทนการซื้อขาด ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการธุรกิจการแพทย์ที่กำลังมาแรง
"จริง ๆ ทุกวันนี้เรื่องการซื้อขาดก็เป็นเรื่องเก่าไปแล้ว การเช่าเป็นเทรนด์ใหม่ที่มาแรง เราเห็นว่ามันเกิดขึ้นแล้วในอุตสาหกรรมอื่น ๆ แต่ว่าในวงการเครื่องมือแพทย์ยังถือว่าเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น ก็มั่นใจว่ารายได้จากธุรกิจให้เช่าจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมีนัยสำคัญ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว
https://youtu.be/fDwJJHrku0Q