HILITE: กลุ่มแบงก์พักตัวยกแผงรับสัญญาณดอกเบี้ยขาลง สวนทางโบรกฯปรับเพิ่มน้ำหนักเป็น Overweight

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 16, 2024 10:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลงถ้วนหน้า นำโดย TTB ลบ 1.49% มาอยู่ที่ 1.99 บาท ลดลง 0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 549.50 ล้านบาท

BBL ลบ 0.94% มาอยู่ที่ 157.50 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 365.01 ล้านบาท

SCB ลบ 0.89% มาอยู่ที่ 111.00 บาท ลดลง 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 490.98 ล้านบาท

KBANK ลบ 0.32% มาอยู่ที่ 157.00 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 690.80 ล้านบาท

TISCO ลบ 0.51% มาอยู่ที่ 97.00 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 67.90 ล้านบาท

KKP ลบ 1.93% มาอยู่ที่ 50.75 บาท ลดลง 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 80.78 ล้านบาท

ส่วน KTB และ BAY ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.พาย กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์วันนี้ถือว่าพักตัวหลังจากปรับตัวขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้านี้ โดยอาจกังวลปัจจัยกดดันผลการดำเนินงานในระยะต่อไปจากสัญญาณเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง หลังจากคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดดอกเบี้ยลงในการประชุมรอบนี้ เพิ่มแรงกดดันอัตราดอกเบี้ยของไทย

ขณะที่เริ่มห็นปัจจัยสนับสนุนให้มีความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจเริ่มลดดอกเบี้ยนโยบาย หลังจากอัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากลุ่มแบงก์ถือว่าได้ปัจจัยหนุนจากดอกเบี้ยที่ทรงตัวในระดับสูง และอาจจะมีการชะลอตัวลงบ้างเมื่อเริ่มเข้าสู่โหมดของดอกเบี้ยขาลง

อย่างไรก็ตาม บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคารขึ้นเป็น "มากกว่าตลาด" จากเดิมที่ "เท่ากับตลาด" โดยมองหุ้นกลุ่มธนาคารจะมีโอกาส outperform จาก Foreign fund flow กลับเข้าตลาดหุ้นไทย หลังอัตราดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มลดลง การจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ มูลค่า 1.5 แสนล้านบาทที่จะเริ่มเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเดือน ต.ค.นี้ และเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ส่งผลให้กำไรกลุ่มมี upside จากประมาณการเดิมที่คาดสินเชื่อ 67-68 โต 2-3% YoY และ NPL เพิ่มขึ้นแต่มีโอกาสน้อยกว่าคาด จากมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ รวมถึงมีหลายธนาคารเริ่มทำ JV AMC มากขึ้น

บล.ดาโอฯ ปรับประมาณการกำไรสุทธิกลุ่มธนาคารปี 67-68 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2% จากการปรับกำไรจากเงินลงทุนเป็นหลัก ทำให้ได้กำไรสุทธิของกลุ่มปี 67-68 อยู่ที่ 2.05 แสนล้านบาท และ 2.17 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% และ 6% YoY จากสำรองฯที่ลดลงกลุ่มธนาคาร outperform SET หรือ +6% ใน 3 และ 6 เดือนที่ผ่านมา เพราะ Fund flow ที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม valuation ยังน่าสนใจ เทรดที่ระดับเพียง 0.70x 2024E PBV (-1.00SD below 10-yr average PBV


แท็ก KBANK   SCB   BBL  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ