นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ โดยที่ตลาดยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนวันนี้ ว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงมาอย่างไร ซึ่งตลาดยังคงให้น้ำหนักการปรับลดดอกเบี้ยไปที่ 0.50% แม้ตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมายังออกมาดี ทำให้คืนนี้ต้องติดตามว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงอย่างไร
ขณะที่ปัจจัยอื่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ ประกอบกับตลาดหุ้นในเอเชียหลัก ๆ เช่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ ปิดทำการ ส่วนตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดทำการเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ
โดยให้แนวต้าน 1,445 จุด แนวรับ 1,425 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,606.18 จุด ลดลง 15.90 จุด หรือ -0.04%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,634.58 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.49 จุด หรือ +0.03%, และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,628.06 จุด เพิ่มขึ้น 35.93 จุด หรือ +0.20%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 36,546.04 จุด เพิ่มขึ้น 342.82 จุด หรือ +0.95% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 2,705.35 จุด เพิ่มขึ้น 1.26 จุด หรือ +0.04% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 เปิดตลาดปรับตัวลง 0.09%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ก.ย.) ที่ 1,436.60 จุด เพิ่มขึ้น 1.07 จุด (+0.07%) มูลค่าซื้อขาย 54,408.59 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (17 ก.ย.) 489.35 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.57% ปิดที่ 71.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ก.ย.) อยู่ที่ 1.64 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.41 อ่อนค่าหลังยอดค้าปลีกสหรัฐหนุนดอลลาร์แข็งค่า ลุ้นผลประชุมเฟดคืนนี้
- "ธนาคารพาณิชย์" ประกาศ ผนึก "พันธมิตร" ยื่นขอใบอนุญาต "เวอร์ชวลแบงก์" ด้าน "กรุงไทย" รับยื่นขอไลเซนส์ธปท. แล้ว พร้อมจับมือ "กรุงไทย-เอไอเอส-โออาร์" มั่นใจพาร์ตเนอร์ 3 รายแกร่ง ชี้ "จุดแข็ง" เอื้อเข้าถึงลูกค้า "กลุ่มอันเดอร์เซิร์ฟ" จากการใช้เทคโนโลยีอีโคซิสเต็ม "แบงก์กรุงเทพ" รับอยู่ระหว่างพิจารณาร่วมกับกลุ่ม "บีทีเอส" ขอไลเซนส์เวอร์ชวลแบงก์ ชี้อีก 2 วันชัดเจน
- "ธนาคารพาณิชย์" รับ สินเชื่อปี 67 "โตช้า-ไม่โต" สอดคล้องเศรษฐกิจทรุด" ศูนย์วิจัยกสิกรไทย" ประเมินสินเชื่อระบบแบงก์พาณิชย์ไทยปีนี้ เสี่ยงหลุดเป้า 1.5% เหตุ "หนี้ครัวเรือน" อยู่ระดับสูง "แบงก์กรุงเทพ" ยันประคองสินเชื่อโต 3% รับ "หนี้เสีย" เป็น "ขาขึ้น" ต่อเนื่อง ย้ำยังบริหารจัดการได้ "กรุงไทย" รับสินเชื่อโตระดับต่ำเร่งประคองช่วยลูกหนี้
- ครม.อนุมัติกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงิน 10,000 บาท 14.5 ล้านคน ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-บัตรคนพิการ รวม 1.4 แสนล้านบาท ดันจีดีพีปีนี้ 0.35% ตั้ง "บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ" พิจารณาแผนเศรษฐกิจปลายปี "คลัง" เตรียมขยาย ขนาดกองทุนขีดแข่งขัน ดึงอุตสาหกรรมเป้าหมาย ลงทุนในประเทศเพิ่มเติม
- กระทรวงการท่องเที่ยวฯ โชว์ต่างชาติเที่ยวไทยทะลุ 24.8 ล้านคน สร้างรายได้ 1.16 ล้านล้านบาท จีนแชมป์ ด้าน ททท.พร้อมกดปุ่ม 'เราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่ง' ทันที
*หุ้นเด่นวันนี้
- ICHI (ฟินันเซียไซรัส) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 19 บาท แนวโน้มกำไร 3Q24 คาดยังโตได้แข็งแกร่ง เบื้องต้นประเมินที่ 380 ล้านบาท +8% q-q, +16%y-y สวนทางฤดูกาล และดีกว่าโทนที่ได้รับจากประชุมนักวิเคราะห์ในช่วงก่อนหน้า หนุนจากยอดขายชาเขียวที่ยังดีหนุนอัดราการใช้กำลังการผลิตให้ยังเต็มระดับ 80% ขณะที่ค่าใช้ค่าใช้จ่ายลดลงทำให้ Margin ยังดี Sentiment ดูดีขึ้นหลังกำไร 2H24 ที่คาดยังโตต่อ เราคาดกำไรปี 2024 ที่ 1.35 พันล้านบาท +23% y-y ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ระดับ 2024PER เพียง 15 เท่า ต่ำเป็นอันดับต้นๆของกลุ่มเครื่องดื่ม และคาดให้ Dividend Yield ทั้งปีสูงราว 7% ช่วยจำกัด Downside
- SNNP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 14.70 บาท จากช่วง CEO Talk เมื่อวานนี้ ผู้บริหารได้เผยถึงแผนการเติบโตของบริษัท ซึ่งเน้นไปที่การขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ในฟิลิปปินส์มีพัฒนาการที่ดีขึ้น บริษัทได้ทำข้อตกลงกับพันธมิตรผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ 3 ราย ซึ่งจะช่วยขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้กว้างขึ้นและนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด นอกจากนี้เวียดนามยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดย SNNP กำลังปรับปรุงเครือข่ายการจัดจำหน่ายใหม่และเริ่มใช้หน่วยเคลื่อนที่ (Mobile Unit) เพื่อเร่งการกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยคาดว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในช่วงปลายปี 2567 ด้วย Valuation ที่ยังซื้อขายต่ำกว่าระดับ -1SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง จึงแนะนำซื้อโดยมีราคาพื้นฐานที่ 14.70 บาท
- PTTEP (พาย) ซื้อ ราคาเป้าหมาย 181.00 บาท รายงานกำไรสทธิใน 2Q24 ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท (+14%YoY, +28%QQQ) มากกว่าที่เราและตลาดคาด โดยปริมาณการขายเพิ่มขึ้นเป็น 507 KBOED(+14%YoYoY,+7%QoQ) เนื่องจากการผลิตก๊าซจากแหล่งเอราวัณปรับสูงขึ้น (ราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่าแบบสัมปทานเดิม) และ Algeria HBR ที่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาเฉลี่ย (ASP) อยู่ที่ 47 US$/BOE (+3%YoY,-1%QoQ) ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น