นางสาวแก้วเจียระไน เขมาสิทธิ์ ผู้จัดการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้า Apple บมจ.คอมเซเว่น (COM7) กล่าวว่า ผลตอบรับของ iPhone 16 , iPhone 16 Plus , iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ที่วางจำหน่ายวันแรก ลูกค้าต่อคิวจับจองล้นหลังเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 13-19 กันยายน 67 ที่ผ่านมา iPhone 16 ซีรีส์ ยังคงสร้างปรากฏการณ์ที่ดีต่อเนื่อง ยอดจองซื้อดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน โดยเฉพาะ iPhone 16 Pro Max ความจุ 256 GB และ 512 GB สีไทเทเนียมทะเลทราย (Desert Titanium) ได้รับความนิยมสูงสุด และถูกจองหมดอย่างรวดเร็ว
นับเป็นการยกระดับ iPhone ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Apple Intelligence รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ สร้างความตื่นเต้นให้สาวก Apple กันไม่น้อย เพราะมีหลายฟีเจอร์ที่จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ให้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสูง และการปรับความสามารถของ Siri ให้มีความธรรมชาติ เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้งาน ควบคู่กับ ChatGPT ซึ่งจะใช้งานได้ตั้งแต่ iPhone 15 Pro ขึ้นไป บนระบบปฏิบัติการ iOS 18 และมองว่า เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผลตอบรับ iPhone 16 ซีรีส์ ที่เปิดตัวในครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก
นอกจากนี้ ในปี 67 นับเป็นอีกปีที่ประเทศไทยเป็นกลุ่มแรก (Tier 1) ที่จำหน่าย iPhone ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม โดยจะวางจำหน่ายวันแรกในวันที่ 20 กันยายน 67 เร็วกว่าปีก่อน 2 วัน ในราคาที่ปรับเข้าถึงผู้บริโภคง่ายขึ้นและได้กลุ่มเป้าหมายกว้างขึ้น ซึ่งราคาปรับลดลงจากรุ่นก่อนหน้าราว 1,000-4,000 บาท โดย iPhone 16 ความจุ 128 GB ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท ไปจนถึง iPhone 16 Pro Max ความจุ 1 TB ราคาเริ่มต้นที่ 64,900 บาท
ในด้านการบริการที่ครบวงจรของ COM7 บริษัทได้พัฒนาแคมเปญ "เทรดอิน พลัส (Trade-in Plus)" นำเครื่องเก่ามาแลกรับส่วนลดเครื่องใหม่ ที่ร้าน Studio 7 และ BaNANA รวมทั้งสาขาภายใต้การบริหารทั่วประเทศไทย ให้ลูกค้าใช้งานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น โดยมีโปรแกรมมาช่วยวิเคราะห์เพิ่มความแม่นยำ และชาญฉลาด ทำให้ลูกค้าได้ราคาที่ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีบริการด้านไฟแนนซ์และโปรแกรมสินเชื่อบัตรเครดิตที่ร่วมรายการผ่อน 0% นานสูงสุด 36 เดือน และสินเชื่อ UFund จาก COM7 เป็นทางเลือกให้ลูกค้าในการตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ได้ง่ายกว่าเดิม
อีกทั้ง Apple ยังออกผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยระบบที่เป็นเอกลักษณ์ มี Ecosystem สินค้าครอบคลุมการใช้งานแบบไร้รอยต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ คือ Apple Watch Series 10 ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ หน้าจอใหญ่ขึ้น ขอบบางลง และ Apple Watch Ultra 2 ยกระดับความทนทาน รวมถึง AirPods 4 , AirPods Max และ AirPods Pro 2 มาพร้อมกับประสบการณ์เสียงและการอัปเกรดซอฟต์แวร์ที่ดียิ่งขึ้น ในสีสันใหม่ จะสนับสนุนให้ในโค้งสุดท้ายของปีนี้คึกคัก นอกจากนี้ ยังทำให้กลุ่มสินค้า Accessory ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเช่นกัน