นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) กล่าวว่า บริษัทได้จัดตั้ง บริษัท เอสซีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน จำกัด ขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในกลุ่ม Engine 2 ซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เพื่อสร้างความสมดุลให้กับธุรกิจของ SC และเป็นการขยายธุรกิจที่มีโอกาสในการเติบโต เป็นเทรนด์ใหม่ของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เพื่อทำให้ SC มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน จากปัจจุบันที่รายได้หลักของ SC มาจากธุรกิจการขายที่อยู่อาศัยเป็นหลักในสัดส่วนกว่า 80% และส่วนที่เหลือเป็นรายได้ประจำที่มาจากธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า 4 แห่งที่เปิดให้บริการอยู่
บริษัทยอมรับว่าปัจจุบันธุรกิจการพัฒนาและขายที่อยู่อาศัยเผชิญกับความท้าทายจากความผันผวนของเศรษฐกิจค่อนข้างมาก และยังมีความท้าทายจากกำลังซื้อ ภาระหนี้สินครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การขอสินเชื่อเข้มงวดมากขึ้น และมาตรการ LTV ยังเป็นข้อจำกัดในการซื้อที่อยู่อาศัย ทำให้ธุรกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว แม้ SC จะเน้นตลาดบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทบขึ้นไป แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายพอสมควรจากการชะลอการตัดสินใจซื้อ เห็นได้จากยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกพลาดเป้าหมายเล็กน้อย แต่เชื่อว่าหากเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นในครึ่งปีหลัง การขายที่อยู่อาศัยจะกลับมาดีขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณการขายขยับขึ้นมาในช่วงกลางเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนอาคารสำนักงาน แม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำให้กับ SC มาต่อเนื่องเฉลี่ย 800 ล้านบาท/ปี แต่ปริมาณซัพพลายพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่าในกรุงเทพฯเริ่มมีมากขึ้น ทำให้มีความท้าทายมากขึ้นในการพัฒนาอาคารสำนักงานแห่งใหม่ และการดึงดูดผู้เช่าให้เข้ามาเพิ่มขึ้น รวมถึงการแข่งขันด้านราคาค่าเช่าก็มีมากขึ้นด้วย SC จึงมองว่าตลาดอาคารสำนักงานเริ่มมีอัตราเติบโตที่ชะลอลง แต่ก็ยังเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้เข้ามาต่อเนื่องได้ ด้วยเน้นการปรับปรุงอาคารให้ดูใหม่ ทันสมัย ตอบโจทย์ผู้เช่า ทำให้ผู้เช่ายังเช่าใช้พื้นที่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับ บริษัท เอสซีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน จำกัด ทาง SC วางงบลงทุนในช่วง 5 ปี (ปี 68-72) รวม 2 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในการพัฒนาคลังสินค้าให้เช่า โรงแรมใหม่ และปรับปรุงอาคารสำนักงานเดิมของ SC พร้อมกับตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) จากธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำให้เพิ่มเป็น 25% ของกำไรทั้งหมด หรือเพิ่มขึ้นเป็น 2 พันล้านบาท/ปี จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนราว 10-15% ของกำไรทั้งหมด
นายรชฎ นันทขว้าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน จำกัด กล่าว่า โรดแมพ 5 ปี (ปี 68-72) แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1. SCX Logistics พัฒนาพื้นที่เช่าคลังสินค้า เน้นทำเลบางนา EEC และ อยุธยา-วังน้อย เป้าหมายพื้นที่เช่ารวม 700,000 ตารางเมตร ภายในปี 72 จากปัจจุบันมีอยู่ 200,000 ตารางเมตร โดยวางแผนจะเพิ่มพื้นที่เช่าเฉลี่ยปีละ 100,000 ตารางเมตร โดยที่พื้นที่เช่าในปัจจุบันมีอัตราการเช่ากว่า 90% เป็นธุรกิจที่บริษัทเห็นดีมานด์สูงจากผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศมากกว่าปริมาณซัพพลาย
2. SCX Hospitality มีแผนการขยายโรงแรมใหม่ๆ ในเป้าหมาย 4 ทำเล ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา สมุย และภูเก็ต ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนห้องพักเป็นมากกว่า 2,000 ห้องภายในปี 72 จากปัจจุบันมีอยู่ 545 ห้องจาก 3 โรงแรมในพอร์ต ได้แก่ โรงแรม YANH ราชวัตร 78 ห้อง อัตราการเข้าพัก (OCC) 80% และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) มากกว่า 2,000 บาท/คืน สร้างรายได้ราว 40-50 ล้านบาท/ปี และอีก 2 โรงแรมอยู่ระหว่างการพัฒนา คือ โรงแรม KROMO, Curio Collection by Hilton สุขุมวิท 29 จำนวน 306 ห้อง จะเปิดให้บริการในไตรมาส 1/68 และโรงแรม THE STANDARD นาจอมเทียน 161 ห้อง จะเปิดให้บริการในไตรมาส 2/68 โดยบริษัทอยู่ระหว่างมองหาที่ดินเช่าเพื่อพัฒนาโรงแรมใหม่ๆ รวมถึงเปิดโอกาสในการเจรจาซื้อโรงแรมเข้ามาบริหารต่อด้วยเช่นกัน
3. SCX Working Solutions พื้นที่เช่าอาคารสำนักงานกว่า 120,000 ตารางเมตร 4 แห่งในกรุงเทพฯ จะปรับปรุงอาคาร เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน และใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยปี 68 จะวางงบปรับปรุงอาคารสำนักงานราว 5 พันล้านบาท เพื่อทำให้อาคารชินวัตร 1 อาคารชินวัตร 2 และอาคารชินวัตร 3 ให้มีความทันสมัยมากขึ้น
ในแง่ของแหล่งเงินทุนรองรับแผนงานนั้น นอกเหนือจากเงินทุนของ SC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ยังวางแผนในช่วง 1-2 ปีจากนี้จะจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) เพื่อนำสินทรัพย์ของบริษัทขายเข้ากองรีทเพื่อนำเงินมารองรับการลงทุน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา เบื้องต้นมองว่ามีความเป็นไปได้ในการนำพื้นที่คลังสินค้าให้หรืออาคารสำนักงานให้เช่าขายเข้ากองรีท
นายณัฐพงศ์ กล่าวเสริมว่า การลงทุนของ SC ยังคงเน้นการเติบโตอย่างมั่นคง โดยที่จะบริหารด้านการเงินให้มีหนี้สินในระดับที่ต่ำ หรือมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) 1.5-1.6 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมกับการที่บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง รองรับการเติบโตของรายได้ที่ตั้งเป้าไปแตะ 3 หมื่นล้านบาทภายในปี 72 ได้ โดย เอสซีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนให้ SC ไปสู่เป้าหมายได้ตามแผน