นายทอมมี่ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH) เปิดเผยว่า การขายหุ้นทั้งหมดใน บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของ CGH ในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการลงทุนได้อย่างชัดเจน และในปี 68 นี้ บริษัท เห็นถึงโอกาสที่จะเดินหน้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยอาศัยปัจจัยบวกจากเงินบาทแข็งค่า และเล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโตจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในต่างประเทศ
นอกจากนี้ เพื่อรองรับภาวะเงินเฟ้อที่คาดว่าจะสูงขึ้นในระยะยาว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้ หรือ Real Asset อีกด้วย ซึ่งการลงทุนเหล่านี้ คาดว่าจะสามารถช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทฯ และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่นักลงทุน
ปัจจุบัน พอร์ตการลงทุนของ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ประกอบไปด้วย
- บล.พาย บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย ที่ให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร พร้อมความสามารถทางนวัตกรรมดิจิทัล
- บริษัท พาย เวนเจอร์ส จำกัด ทำหน้าที่เป็นกองทุนร่วมลงทุน (Venture Capital) ซึ่งได้จัดสรรเงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท ให้แก่ 8 บริษัท เพื่อผลักดันให้เกิดนวัตกรรม และธุรกิจใหม่ ๆ โดยคาดว่าจะมีศักยภาพเพียงพอในการสร้างผลตอบแทน และเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
- บมจ.เบาด์ แอนด์ บียอนด์ (BEYOND) ผู้นำด้านการลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับ Ultra Luxury โดยมีโรงแรมชื่อดังอย่าง คาเพลลา กรุงเทพฯ และ โฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ภายใต้การบริหาร สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการส่งมอบประสบการณ์ที่หรูหรา และเป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ในวงการโรงแรม
อย่างไรก็ดี พอร์ตโฟลิโอของบริษัทในเครือ CGH ยังได้ผ่านการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอนวัตกรรม และโซลูชันใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ การเปิดตัวแพลตฟอร์มการลงทุนแบบครบวงจร แอปพลิเคชัน Pi Financial ของ บล.พาย ไปจนถึงการสร้างหน่วยงานใหม่ของ บล.พาย อย่าง Pi Private Wealth ถือเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการขยายธุรกิจ Digital Wealth Management ในอนาคต
และ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการให้บริการด้านการลงทุน CGH ได้เข้าซื้อกิจการในบริษัท ท๊อป เทรดเดอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำการให้บริการโซลูชันการซื้อขายสินทรัพย์แบบอัตโนมัติบนแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 โดยบริษัทฯ มุ่งหน้าในการผสานรวมเทคโนโลยีนี้เข้ากับแอปพลิเคชัน Pi Financial เพื่อช่วยยกระดับประสบการณ์การลงทุนของลูกค้า และเปิดโอกาสให้เข้าถึงเครื่องมือการลงทุนที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
นายทอมมี่ กล่าวเสริมว่า แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองโลกจะสร้างความไม่แน่นอน แต่ CGH มั่นใจในศักยภาพของบริษัทในการปรับตัว และเติบโต และด้วยความแข็งแกร่งของงบดุล และความเชี่ยวชาญในธุรกิจของเรา เราพร้อมที่จะขยายการลงทุนไปยังตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง