นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย(THAI ) กล่าวว่า บริษัทฯ จะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน THAI ไม่เกิน 31,500 ล้านหุ้น ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยมีเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณากว่า 1,000 หน้า ได้แก่ ข้อมูลบริษัท แผนธุรกิจ แผนจัดหาเครื่องบิน เป็นต้น.
ทั้งนี้ การออกหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ และทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก โดยบริษัทฯ สามารถยื่นออกจากแผนฟื้นฟูในไตรมาส 2/68
อย่างไรก็ดี ความกังวลที่บริษัทฯ จะกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยกระทรวงการคลังจะมีสัดส่วนการถือหุ้น 30% ต้น ๆ จากการแปลงหนี้เป็นทุนที่กระทรวงการคลังใช้สิทธิ 100% และหากใช้สิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในฐานะผู้ถือหุ้นเดิมก็จะถือหุ้นเพิ่มเป็น 44-45%
หากกระทรวงการคลังมีนโยบายต้องการให้บริษัทฯ กลับไปเป็นรัฐวิสาหิจก็สามารถเข้าซื้อหุ้นได้ตลาดไม่ยาก เพราะซื้ออีกแค่ 5-6% ก็ถือเกิน 51% แล้ว
นายชาย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเห็นแล้วว่าการที่บริษัทฯ เป็นรัฐวิสาหกิจ ทำให้มีการแทรกแซงในองค์กร และสะท้อนไปที่ผลประกอบการ แต่ในช่วงที่อยู่ในแผนฟื้นฟู การทำงานไม่มีอะไรเข้ามาแทรกแซง ทำให้การบริหารภายในทำได้ดี การจัดซื้อจัดจ้างโปร่งใส และทำให้ต้นทุนการบริหารเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายชาย กล่าวว่า ในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ บริษัทฯ กำลังเจรจากับพันธมิตรมากกว่า 1 ราย เพื่อเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นที่ช่วยขับเคลื่อนบริษัทฯ หลังออกจากแผนฟื้นฟู โดยคาดว่าจะนำส่วนหุ้นเพิ่มทุนในส่วนที่ภาคสมัครใจให้เจ้าหนี้สถาบันสามารถแปลงหนี้เป็นทุนให้กับเจ้าหนี้สถาบันการเงินที่ให้เงินกู้ใหม่ที่เป็นวงเงิน 1.25 หมื่นล้านบาท แต่บริษัทฯ ไม่ได้กู้ก็จะสามารถนำส่วนนี้ที่มีจำนวน 4,911 ล้านหุ้น และส่วนดอกเบี้ยตั้งพักจำนวน 1,904 ล้านหุ้นมาเสนอขายให้กับพันธมิตรใหม่ได้
และหากส่วนการขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 9,822 ล้านหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมและพนักงานไม่หมดก็จะนำไปเสนอขายให้พันธมิตรได้อีก โดยรวมแล้วคาดว่าพันธมิตรใหม่จะเข้ามาถือหุ้นราว 16-24%
"ส่วนของพันธมิตรใหม่ก็ยังไม่ใหญ่เท่าคลัง แต่ถ้าเอาส่วนผู้ถือหุ้นรายอื่นไม่ใช่คลัง เจ้าหนี้หุ้นกู้ที่มีรายย่อยมารวมกัน" นายชาย กล่าว