(เพิ่มเติม) กลุ่ม SAMART คาด Q2/51 รายได้โต 20%,ศึกษาแผนขยายโรงไฟฟ้ากัมปอต

          กลุ่มบมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น(SAMART)คาดรายได้ในไตรมาส 2/51 จะโต 20% จากปีก่อน จากการเติบโตของยอดขายเครื่องโทรศัพท์มือถือ i-mobile ที่ตลาดต่างประเทศขยายตัว  ขณะที่งานภาครัฐด้านโทรคมนาคมคาดจะประมูลได้กว่า 1 พันล้านบาท และทยอยรับรู้งานในมือ 
          "ทั้งรายได้และกำไรสุทธิในไตรมาส 2 นี้จะดีกว่าทั้งจากไตรมาสแรกปีที่แล้วและไตรมาส 4 ปีก่อน ทั้งจากตัวโทรศัพท์ที่มียอดขายเข้ามา 4-5 แสนเครื่องแล้ว และงานภาครัฐ คิดว่าจะได้เซ็นสัญญาเพิ่มอีกกว่า 1 พันล้านบาท" นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SAMART กล่าว 
          นอกจากนี้ บริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิคเซอร์วิส จำกัด ผู้ให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา  คาดว่ารัฐบาลกัมพูชาจะได้ขึ้นค่าบริการ 10-15% ภายในไตรมาส 2 นี้  รวมกับการรับรู้กำไรจาการขายที่ดินของบริษัทแคมโบเดีย สามารถ (ถือ 49%) ได้กำไร 4.7 ล้านเหรียญสหรัฐ บันทึกในไตรมาส 2/51 
          ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/50 กลุ่ม SAMART มีรายได้รวม 4,493 ล้านบาท กำไรสุทธิ 122 ล้านบาท ส่วนทั้งปี 51 กลุ่มบริษัทสามารถยังคงตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งรวมรายได้ของ บมจ.สามารถไอ-โมบาย (SIM) และ บมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL) 
          ด้านนายศิริชัย รัศมีจันทร์ รองประธานกรรมการบริหาร SAMART คาดว่า อัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้จะได้ไม่ต่ำกว่า 21% จากปีก่อนที่ 16% โดยปีนี้บริษัทจะมุ่งทำกำไรมากกว่ารายได้ รวมทั้งบริษัทพยายามหารายได้จากสัมปทาน หรือ Fixed income มากขึ้น เพื่อไม่ให้รายได้ผันผวนมาก 
          บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาแผนขยายกำลังผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงไฟฟ้ากัมปอต(Kampot Power Plant)ในกัมพูชา โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว หรืออีกประมาณ 23-30 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนราว 30-40 ล้านบาท จากปัจจุบันผลิตกระแสไฟฟ้า 23 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับโรงงานกัมปอตซิเมนต์ที่มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตเท่าตัว และเชื่อว่าน่าจะได้ข้อสรุปอย่างเร็วภายในไตรมาส 2/51 รับรู้รายได้ในปีหน้า
          ขณะที่แผนการนำบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด เข้าตลาดหลักทรัพย์ mai ในครึ่งหลังปี 51 อาจจะล่าช้าออกไปอาจไปเป็นปลายปี หรือ เป็นปีหน้า เพราะบริษัทต้องการรอการเจรจาไกล่เกลี่ยกับทีโอทีก่อน กรณีบริษัทฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับไทยโมบาย ที่ทีโอทีถือหุ้นใหญ่ จำนวน 2.6 พันล้านบาท เมื่อ 21 ธ.ค.50  โดยวันทูวัน คอนแทคส์ ก็มีสัญญาเกี่ยวข้องกับไทยโมบายด้วย