นายประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล (TMAN) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทอยู่ระหว่างการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและยกระดับมาตรฐานในระดับสากล ผ่านการวิจัยและพัฒนาเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพใหม่ๆ ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และลงทุนในเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และขยายตลาดต่างประเทศในอนาคต เพื่อก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมสุขภาพ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
กลุ่มบริษัทฯ คาดการณ์การตรวจพบเชื้อสาเหตุโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น([1]) เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงจากฤดูฝนสู่ฤดูหนาว ส่งผลให้แนวโน้มดีมานด์การใช้ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์การดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มโรคทางเดินหายใจ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลและช่วยบรรเทาอาการทางช่องปากและลำคอ กลุ่มยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) และกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยคาดการณ์มูลค่าการจำหน่ายยาในประเทศไทย ปี 2566 -2568 เติบโตเฉลี่ย 5-6% (อ้างอิงจาก Krungsri Research)
กลุ่มบริษัทฯ จึงวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์ยาใหม่อย่างต่อเนื่อง ในช่วงไตรมาส 4/2567 ทั้งเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จากแผนทั้งปีจะเปิดตัว 10-12 รายการ โดยในช่วงไฮซีซันที่จะมาถึง กลุ่มบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอ ที่สามารถตอบสนองความต้องการทั้งการรักษา และการป้องกันโรค ทุกช่วงวัยของผู้บริโภค ทั้งกลุ่มโรคทางเดินหายใจ เม็ดอมบรรเทาอาการเจ็บคอแบรนด์ Propoliz และยาอมแก้เจ็บคอแบรนด์ Basina รวมทั้งกลุ่มยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) และล่าสุดได้เปิดตัว ยาแก้ไอ ไอยรา อะฮ่า สูตรใหม่ ที่ผสานพลังจากธรรมชาติของมะแว้งต้น มะขามป้อม และชะเอมเทศ ด้วยจุดเด่นส่วนผสมเข้มข้น รสชาติอร่อย รับประทานง่าย ไม่เฝื่อนขม เจาะผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์และคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ผ่านการติดตามแนวโน้มอุตสาหกรรม สถิติอัตราผู้ป่วยโรคต่างๆ โรคที่เกิดขึ้นบ่อย สถานการณ์การระดับการติดเชื้อ การดูแลรักษาสุขภาพ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในแต่ละช่วงเวลา อีกทั้งได้กำหนดกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ขยายฐานลูกค้าในโรงพยาบาล และเพิ่มสัดส่วนธุรกิจ OEM/ODM เพิ่มสัดส่วนธุรกิจรับจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก ตลอดจนการสร้างการเติบโตของรายได้จากการขยายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศที่ได้ส่งออกไปกว่า 22 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะผลักดันให้กลุ่มบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง