บล.กรุงศรี ระบุว่า กรณีที่ รมช.คลัง กล่าวว่าช่วงปลายปีนี้รัฐบาลได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบของมาตรการภาษีและการกระตุ้นใช้จ่ายไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่รูปแบบโครงการ "คนละครึ่ง" เชิงกลยุทธ์ เรามองมีโอกาสที่มาตรการน่าจะอยู่ในลักษณะ "ช็อปดีมีคืน" จะเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก เน้น CPALL, CPAXT, HMPRO
ทั้งนี้ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีความพยายามจะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้าโตได้มากกว่า 3% ส่วนหนึ่งจะมีเม็ดเงินจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตใส่เข้าไป รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งใหญ่ และในช่วงปลายปีนี้ รัฐบาลได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้แล้ว โดยยืนยันว่าไม่ใช่รูปแบบโครงการ "คนละครึ่ง" แต่จะเป็นรูปแบบของมาตรการภาษีและการกระตุ้นใช้จ่าย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
"รัฐบาลมีมาตรการอยู่ใน pipeline แล้ว มีอาวุธอยู่ในมือ ซึ่งเตรียมจะออกมาในช่วงปลายปีนี้ แต่จะเป็นรูปแบบไหนให้รอดู เรามี timeline ที่ชัดเจนแล้ว" รมช.คลัง กล่าว
ขณะที่เศรษฐกิจไทยปีนี้ รมช.คลัง มองว่า มีโอกาสเติบโตได้ใกล้เคียง 2.7% ซึ่งตามประมาณการนี้ ได้ใส่ผลของเม็ดเงินจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการโอนเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเปราะบางลงไปแล้ว ที่มีผลต่อ GDP ปีนี้ให้เพิ่มขึ้นอีกราว 0.3% จากคาดการณ์เดิมที่ประมาณ 2.6%
"ปีนี้ ถ้าไม่รวมก้อน 1 หมื่นบาท ก็จะโตได้ราว 2.6% แต่ถ้ารวมผลของเงิน 1 หมื่นบาทเข้าไป ก็จะโตเพิ่มได้อีก 0.3% กว่า ๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีผลเฉพาะแค่ปีนี้ มันจะลากยาวไปต้นปีหน้าด้วย เพราะฉะนั้น เป็นไปได้ที่จะโต 2.7% ในปีนี้ เพราะมีเม็ดเงินลงไปช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม" นายเผ่าภูมิ กล่าว