หุ้น OKJ เปิดเทรดวันแรก 10.10 บาท ราคาพุ่ง 50.75% จากราคา IPO ที่ 6.70 บาท
บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ (OKJ) ให้ราคาเหมาะสม consensus ที่ 7.90-8.10 บาท
OKJ ประกอบธุรกิจให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เน้นการปลูกผักแบบเกษตรอินทรีย์ (Organic) และนำเสนออาหารและเครื่องดื่มจากวัตถุดิบหลักที่เป็นอินทรีย์ โดยมีธุรกิจหลัก 1.ธุรกิจบริการและจำหน่ายอาหาร 37 สาขา แบรนด์ "โอ้กะจู๋" (สัดส่วนรายได้ 99.3%) 2.ธุรกิจร้านอาหารประเภทจานด่วน 1 สาขา แบรนด์ Ohkajhu Wrap & Roll (สัดส่วนรายได้ 0.1%) และ 3.ธุรกิจร้านน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพ 6 สาขา แบรนด์ Oh! Juice (สัดส่วนรายได้ 0.6%)
บริษัทฯ มีรายได้ในปี 64-66 เท่ากับ 798 ล้านบาท 1,210 ล้านบาท และ 1,713 ล้านบาท โดยรายได้ที่เติบโตแต่ละปี มาจากการเปิดสาขาใหม่ ประกอบกับการส่งเสริมการขาย ขณะที่บริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น %GPM ที่ระดับ 31.6% 42.8% และ 45.2% ตามลำดับ ส่งผลให้พลิกจากขาดทุนสุทธิ 85 ล้านบาท ในปี 64 เป็นกำไร 38 ล้านบาท ในปี 65 และ 141 ล้านบาท ในปี 66 คิดเป็น %NPM ที่ระดับ -10.5% 3.2% และ 8.2% ตามลำดับ
สำหรับงวด 6 เดือนปี 67 มีรายได้ 1,097 ล้านบาท +41%YoY จากการเพิ่มขึ้นของสาขาใหม่ ประกอบกับการรับรู้รายได้ จากการเปิดร้านอาหารและเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ใหม่ ขณะที่ต้นทุนค่าวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น และการให้ส่วนลดค่าอาหารแก่ลูกค้า ทำให้ %GPM ที่ระดับ 44.5% ลดลงจาก 46.2% ในงวด 6M66 ส่งผลให้มีกาไรสุทธิ 102 ล้านบาท +38%YoY คิดเป็น %NPM ที่ระดับ 9.2% ลดลงจาก 9.5% ใน 6M66
OKJ ขายหุ้น IPO 159 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 26.1% ของหุ้นทั้งหมด มูลค่าการเสนอขาย 1,065.3 ล้านบาท Par 0.50 บาท ราคา IPO คิดเป็น P/E 24.13 เท่า เทียบกับบริษัทคล้ายคลึงกัน ได้แก่ AU 33.84 เท่า, MAGURO 31.98 เท่า
วัตถุประสงค์การระดมทุน 1. ขยายสาขา ร้านโอ้กะจู๋ ร้าน Ohkajhu Wrap & Roll และ ร้าน Oh! Juice และ/หรือการขยายสาขาสำหรับธุรกิจหรือแบรนด์ใหม่ๆ ปรับปรุงสาขา และขยายช่องทางการจำหน่าย 2. ลงทุนในการก่อสร้างครัวกลางแห่งใหม่ และการพัฒนาเครื่องจักร อุปกรณ์ รวมถึงห้องล้างผัก และเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต 3. ลงทุนและพัฒนาเครื่องจักร อุปกรณ์ และระบบสาธารณูปโภค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูก และ 4. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน