นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด หนึ่งในกลุ่มยื่นขอใบอนุญาตVirtual Bank ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการทางการเงินผ่านแอปพลิเคชัน "ทรูมันนี่" ที่มีจำนวนผู้ใช้บริการรวมกว่า 34 ล้านราย และมีบริการให้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ Pay Next และ Pay Next Extra ผ่านการให้บริการภายใต้บริษัทในเครือ คือ บริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด
นายธัญญพงศ์ กล่าวว่า พันธกิจของบริษัทในการให้บริการทางการเงินผ่านทรูมันนี่ บริการ Pay Next และ Pay Next Extra เพื่อทำให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงินได้ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ถูกปฏิเสธสินเชื่อค่อนข้างมาก ทำให้คนไทยจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบได้ จึงเป็นพัธกิจหลักของบริษัทในการที่สนใจยื่นขอใบอนุญาต Virtual Bank
"เรามีการพัฒนาบริการทางการเงิน โดยให้บริการผ่านทรูมันนี่ ซึ่งการที่เราตั้งใจทำ Virtual Bank เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ Underserve บริการทางการเงินในระบบที่มีสัดส่วนสูงกว่า 70% ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในกลุ่มนี้ คือ บริการ Pay Next และ Pay Next Extra แต่การที่มี Virtual Bank ก็เป็นสิ่งที่เข้ามาเสริม และช่วยผลักดันพันธกิจของเรา หากเราได้ Virtual Bank ก็ยังมีทรูมันนี่ อยู่ด้วยเช่นกัน" นายธัญญพงศ์ กล่าว
จุดเด่นของบริษัท คือ บริการทางการเงินมาจากการที่มีเทคโนโลยี มีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถพัฒนาบริการทางการเงิน วิเคราะห์เครดิตโมเดล และวิเคราะห์ความเสี่ยงต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทเป็นเพียงผู้ให้บริการทางการเงินในประเทศไทยเพียงไม่กี่รายที่มีการวิเคราะห์การให้สินเชื่อของลูกค้าจากพฤติกรรมการใช้ ทรูมันนี่ วอลเล็ต รวมถึงระบบติดตามและการใหบริการชำระหนี้ที่รวดเร็ว
โดยที่การให้บริการสินเชื่อของบริษัท ในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคล ที่ได้เปิดให้บริการมาราว 2 ปีครึ่ง มีพอร์ตสินเชื่อรวมเกินกว่า 2 หมื่นล้านบาท และมีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ไอให้เกิดรายได้ (NPL) ก่อนการตัดจำหน่ายหนี้สูญ อยู่ที่ 7.5% ซึ่งเป็นระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ และการให้บริการ Virtual Bank มีความตั้งใจในการให้บริการที่ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการรับฝาก การให้สินเชื่อ และบริการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น