นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 ต.ค.67 มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงร่างประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับบทระวางโทษปรับเป็นเงินกับสมาชิก (บริษัทหลักทรัพย์) ตามที่ตลาดหลักทรัพย์เสนอ ซึ่งได้มีการจัดกลุ่มลักษณะการกระทำผิดใหม่ และการกำหนดบทระวางโทษปรับเป็นเงินให้เหมาะสมในแต่ละกรณี เพื่อให้มีความชัดเจนและมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ได้กำหนดบทระวางโทษปรับเป็นเงินในแต่ละลักษณะการกระทำผิด ตามระดับความรุนแรง ไว้ 4 ระดับ ได้แก่ น้อย , ปานกลาง, มาก และรุนแรงมาก เพื่อสะท้อนกับความผิด เช่น กรณีการกระทำผิดที่มีระดับน้อย จะมีอัตราโทษปรับ 3,000-30,000 บาทต่อรายการ และสูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ด้านการกระทำผิดระดับมาก กระทบกับอุตสาหกรรมหรือผู้ลงทุนในวงกว้าง เช่น มีการส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะไม่เหมาะสม หรือ ปั่นหุ้น หากสมาชิกพบเห็นแล้วไม่ดำเนินการยับยั้ง ให้ถือว่ามีความผิด ก็จะมีอัตราโทษปรับตั้งแต่ 3 ล้านบาท จนไปถึง 10 ล้านบาท
ส่วนกรณี Naked Short Selling ถือเป็นลักษณะการกระทำผิดที่มีระดับรุนแรงมาก บทระวางโทษปรับเป็นเงินต่อลักษณะการกระทำผิดจึงมีอัตราโทษปรับ 3 เท่าของกำไรที่ได้รับ แต่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เป็นต้น
"สืบเนื่องจากกรณีที่มีเรื่องของ Naked Short Selling ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งเห็นว่าควรที่จะมีการปรับบทลงโทษให้สูงขึ้น จากเกณฑ์เดิม ไม่ได้ระบุรายละเอียดที่ชัดเจน มีเพียงบอกถึงโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อลักษณะการกระทำผิด และมีโทษปรับต่อรายการ รวมถึงยังเป็นการส่งสัญญาณกับทางบริษัทหลักทรัพย์ หากมีการส่งคำสั่งไม่เหมาะสม จะมีบทระวางโทษปรับที่หนัก" นายเอนก กล่าว
นอกจากนี้ ตลท.ได้กำหนดบทบัญญัติการเพิ่มโทษ สำหรับกรณีกระทำผิดโดยจงใจ หรือเอื้อประโยชน์ให้ลูกค้า หรือหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ และข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยสามารถปรับเพิ่มได้อีกไม่เกิน 10 ล้านบาท และกำหนดแนวทางการพิจารณาความผิดและลงโทษสมาชิกที่ใช้ภายใน เพื่อกำหนดโทษปรับเป็นเงินที่แน่นอน / มีการกำหนดปัจจัย เพิ่ม-ลดโทษอย่างชัดเจน ไม่เปิดช่องให้มีการใช้ดุลพินิจได้มากจนเกินสมควร และนำมาใช้บังคับกับสมาชิกทุกรายด้วยมาตรฐานเดียวกัน โดยจะมีผลใช้บังคับกับการกระทำผิดของสมาชิกที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันที่หลักเกณฑ์บทระวางโทษใหม่มีผลใช้บังคับเป็นต้นไป
ก.ล.ต.คาดว่าทาง ตลท.จะสามารถประกาศหลักเกณฑ์ดังกล่าวออกมาได้เร็วๆ นี้