บลจ.ยูโอบี ชี้ข่องกระจายลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกรับดอกเบี้ยขาลง-ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 10, 2024 18:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บลจ.ยูโอบี ชี้ข่องกระจายลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกรับดอกเบี้ยขาลง-ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

นางสาววรรณจันทร์ อึ้งถาวร รองกรรมการผู้จัดการ สายการลงทุน บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) ได้ให้มุมมองว่าเศรษฐกิจโลกในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าจะยังคงสามารถที่จะขยายตัวในระดับปานกลางต่อไป หลังจากที่เติบโตได้ค่อนข้างดีในช่วงสองไตรมาสแรกในปีนี้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรปที่สามารถหลีกเลี่ยงการเข้าสู่เศรษฐกิจถดถอยได้ ภาพรวมของเงินเฟ้อทั่วโลกปรับตัวลดลง เป็นปัจจัยหนุนต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก

ทั้งนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจมาจากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลัก ๆ ทั่วโลก อย่างเช่น Fed และ ECB ทั้งในปีนี้รวมถึงในปีหน้า ซึ่งช่วยทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มลดลง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้น และลดความกังวลต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง

ทางด้านเศรษฐกิจใหญ่ในฝั่งเอเชียอย่างประเทศจีน ก็มีแนวโน้มที่จะมีโอกาสฟื้นตัวเช่นกันจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งภาคการเงินและการคลังที่ทางธนาคารกลางและรัฐบาลจีนช่วยกันนำออกมาใช้เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค จึงทำให้แนวโน้มของตลาดหุ้นต่างประเทศยังคงน่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม การจัดสรรสินทรัพย์เพื่อกระจายความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสำหรับนักลงทุนในแต่ละคน ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม โดยเราแนะนำให้กระจายการลงทุนบางส่วนไปไว้ในตราสารหนี้ทั่วโลก เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางและยุโรปยังคงมีอยู่ รวมไปถึงสงครามการค้าที่อาจจะเกิดขึ้นอีกหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ทางด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังมีโอกาสเติบโตได้ดีในช่วงปีหน้า ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงบ้าง จากตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ ส่วนใหญ่โดยเฉพาะตัวเลขในภาคตลาดแรงงานที่ประกาศออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ แต่การชะลอตัวลงดังกล่าวคาดว่าจะไม่รุนแรงถึงระดับภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง (Hard Landing)

เนื่องจากเศรษฐกิจในภาคบริการซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นยังคงดีต่อเนื่องสะท้อนจาก ดัชนี ISM Services ที่ประกาศออกมาล่าสุด รวมไปถึงแบบจำลอง GDP Now ของ Fed สาขา Atlanta ที่แสดงถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สามนี้ถึง 2.9% ทั้งนี้ ในการประชุม FOMC ครั้งล่าสุด ธนาคารกลางสหรัฐได้มีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.50 เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวลงในอนาคตและอัตราการว่างงานที่เริ่มเพิ่มระดับสูงขึ้น

โดยทางบลจ.ยูโอบี มองว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐเลือกที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% เป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้าและเหมาะสมกับอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงมา ซึ่งทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีหน้านั้นดีขึ้นและโอกาสที่จะเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงนั้นน้อยลง

อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน นี้ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม จากการใช้นโยบายกีดกันทางการค้าที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงลบต่อทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากขณะนี้ผลสำรวจบ่งชี้ถึงผลการเลือกตั้งที่ยังคงสูสีระหว่าง Donald Trump และ Kamala Harris

นายกุลฉัตร จันทวิมล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจ บลจ. ยูโอบี ได้ให้ความเห็นว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจและโอกาสการเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ยังมีโอกาสการเติบโตดังที่เห็นได้จากตัวเลขทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ทาง บลจ. ยูโอบี เองก็มี Solution หลากหลายทางเลือกให้กับนักลงทุน

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกลุ่มหุ้นสหรัฐฯ บลจ. ยูโอบี แนะนำ กองทุนรวมตราสารทุน คือ กองทุนเปิด ไทย ยูไนเต็ด ยูเอส โกรท ฟันด์ (UUSA) ระดับความเสี่ยง 6 - เสี่ยงสูง โดยกองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ JPMorgan Funds ? US Growth Fund Class I (acc)-USD (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งหาผลตอบแทนในระยะยาวจากการลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตหรือแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน

หากสามารถรับความเสี่ยงและต้องการกระแสรายได้สม่ำเสมอ จากการลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลก พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแนะนำลงทุน กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอลอินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (UGIS-SSF) และกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอลอินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (UGISRMF) ระดับความเสี่ยง 5 -เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง โดยกองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ PIMCO GIS Income Fund (Class I) (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระแสรายได้ในระดับสูงโดยการบริหารการลงทุนอย่างรอบคอบ และมีวัตถุประสงค์ในการสร้างการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว มีหลักการกระจายการลงทุนไปในตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ

สำหรับท่านที่หวังผลตอบแทนในระยะยาวจากการลงทุนในหุ้น แนะนำลงทุนในหุ้นทั่วโลกในบริษัทชั้นนำที่มีการเติบโตพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้แก่ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ควอลิตี้ โกรท ฟันด์ (UGQGRMF) ระดับความเสี่ยง 6 ? เสี่ยงสูง โดยกองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ United Global Quality Growth Fund (Class USD Acc) (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์การลงทุนมุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว และส่งเสริมการลงทุนด้าน ESG โดยนำปัจจัยด้าน ESG เข้ามาพิจารณาใช้ในกระบวนการลงทุน (ESG Integrated) ซึ่งมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน

กองทุนเปิด ยูไนเต็ด หุ้นไทย ซัสเทนเนเบิล ชนิดหน่วยลงทุนไทยเพื่อความยั่งยืนและไม่จ่ายเงินปันผล (UTSEQ-THAIESG) ระดับความเสี่ยง 6 ? เสี่ยงสูง กองทุนลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยเน้นลงทุนในบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจที่ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือองค์กร หรือสถาบันอื่นที่สำนักงานยอมรับว่ามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) หรือด้านความยั่งยืน (ESG) ซึ่งประกอบไปด้วยปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance) โดยกองทุนจะลงทุนในหุ้นดังกล่าวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ