นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ โดยที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นมาในระดับ 4.2% สูงสุดในรอบ 3 เดือน ทำให้เป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาดหุ้น
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดมาเช้านี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน ซึ่งตลาดยังรอติดตามการรายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิต และภาคบริการของสหรัฐในคืนนี้ โดยให้แนวต้าน 1,480-1,485 จุด แนวรับ 1,460-1,465 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (23 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,514.95 จุด ลดลง 409.94 จุด หรือ -0.96%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,797.42 จุด ลดลง 53.78 จุด หรือ -0.92% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,276.65 จุด ลดลง 296.47 จุด หรือ -1.60%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 37,804.52 จุด ลดลง 300.34 จุด หรือ -0.79%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 20,576.05 จุด ลดลง 184.1 จุด หรือ -0.89% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,287.82 จุด ลดลง 14.98 จุด หรือ -0.45%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 ต.ค.) ที่ 1,470.32 จุด ลดลง 18.42 จุด (-1.24%) มูลค่าซื้อขาย 57,044.51 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,701.28 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. (23 ต.ค.) ลดลง 97 เซนต์ หรือ 1.35% ปิดที่ 70.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ต.ค.) อยู่ที่ 4.67 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.83 อ่อนค่า หลังบอนด์ยีลด์หนุนดอลลาร์แข็งค่า ก่อนเลือกตั้งสหรัฐ
- รมว.การท่องเที่ยและกีฬา เผย ภายในต้นเดือน ม.ค. 68 จะเสนอให้ ครม. พิจารณาเรื่องการจัดเก็บภาษีท่องเที่ยวในอัตราเดียว 300 บาทไม่ว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้าไทยในทางใด จากเดิมที่เคยมีข้อเสนอจัดเก็บ 2 อัตรา คือ ทางบกและทางน้ำ 150 บาท และทางอากาศ ในอัตรา 300 บาท เพื่อป้องกันคำครหาการเลือกปฏิบัติ ภาษีที่เก็บครั้งนี้จะนำไปใส่ในกองทุนเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวไทยกรณีฉุกเฉินต่างๆ
- รมช.คลัง เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ว่า คลังคาดว่าจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ภายในปีนี้ และหลังจากผ่านความเห็นชอบของ ครม.แล้วรัฐบาล จะผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ ให้สภาพิจารณาต่อไป ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรจะเปิดสมัยการประชุมสามัญอีกครั้งในกลางเดือน ธ.ค.นี้ถึง เม.ย.ปีหน้า
- ราคาทองคำยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์หรือนิวไฮ โดยราคาทองคำได้มีความเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคักตั้งแต่เปิดตลาดแม้ว่าจะเป็นในช่วงวันหยุดราชการก็ตาม ล่าสุดได้มีการปรับราคาไปทั้งสิ้น 13 ครั้ง โดยราคาทองคำไปสูงสุดบาทละ 650 บาท ก่อนจะลดลงมาปิดตลาดที่เพิ่มขึ้น 550 บาท เมื่อเทียบกับราคาปิดเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ทั้งนี้ ราคาทองแท่งขายออกบาทละ 43,900 บาท ซื้อเข้าบาทละ 43,800 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 44,400 บาท ซื้อเข้าบาทละ 43,008.92 บาท ด้านราคาทองคำในตลาดโลกอยู่ที่ 2,757.93 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 36.44 ดอลลาร์ และค่าเงินบาท 33.60 บาท/ดอลลาร์
*หุ้นเด่นวันนี้
- KKP (เมย์แบงก์) ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 65 บาท (P/BV ปี 67 ที่ 0.8 เท่า และ ROE ที่ 8.7%) จากเดิม 52 บาท หลังจากที่ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 67-69 ขึ้น 3-14% จากการที่เห็นปัจจัยบวกหลายประการที่จะสนับสนุนการเติบโตของ EPS ได้แก่ ผลขาดทุนจากการขายที่ลดลง ต้นทุนการเงินที่ลดลง การฟื้นตัวของรายได้จากค่าธรรมเนียม การเติบโตของสินเชื่อรถยนต์ประเภท Auto Equity และแผนการบริหารจัดการเงินทุน ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 68 ที่ 8 เท่า และ P/BV 0.7 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีอยู่ -1SD ทำให้เลือก KKP เป็น Top Pick สำหรับกลุ่มธนาคารขนาดกลางแ
- AMATA (กสิกรไทย) มีมุมมองเชิงบวกจาก Backlog ของ AMATA ที่ทำระดับสูงสุดใหม่ สูงถึง 1.69 หมื่นล้านบาท และมีความแข็งแกร่งจากการที่ลูกค้าวางเงินมัดจำในสัดส่วนที่สูง อีกทั้งความต้องการใช้ที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมใความต้องการสูงมากกว่าอุปทาน และยังได้รับปัจจัยหนุนจากการบ้านฐานการผลิตของจีนและไต้หวั่น ทำให้เป็น upside ต่อธุรกิจ โดยให้ราคาพื้นฐาน 29.50 บาท
- BEM (อินโนเวสท์ เอกซ์) มองครึ่งหลังปี 67 คาดกำไรจะแข็งแกร่งขึ้น HoH ส่วนไตรมาส 3/67 คาดกำไรปกติเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยได้แรงหนุนจากจำนวนผู้โดยสาร MRT ที่เพิ่มขึ้นและการขึ้นค่าโดยสาร MRT อีกทั้งมองมี Upside Risk เพิ่มเติมจากโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งเรายังไม่ได้นำมารวมไว้ในประมาณการ