ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดภาคเช้า 1,467.51 จุด ลดลง 2.81 จุด (-0.19%) มูลค่าซื้อขายราว 28,677 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีแกว่งผันผวนทั้งแดนบวกและลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,476.58 จุด และต่ำสุด 1,463.83 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน โดยช่วงแรกปรับตัวลงมาแล้วค่อยๆ ขยับขึ้นไปแกว่งในแดนบวกก่อนย่อตัวลงมาอีกครั้ง ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ประกอบกับ แรงซื้อจากสถาบันและนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอลง
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังมีความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ใกล้เข้ามาในเดือนพ.ย.นี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มทยอยขายสินทรัพย์เสี่ยงไปพักไว้ที่สินทรัพย์ปลอดภัย จะเห็นว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียอ่อนค่า รวมถึงเงินบาท เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าส่วนใหญ่ก็เคลื่อนไหวในแดนลบ
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดแกว่งไซด์เวย์ โดยให้แนวต้าน 1,475-1,480 จุด แนวรับ 1,455-1,460 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,930.42 ล้านบาท ปิดที่ 114.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,427.85 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,219.76 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,053.47 ล้านบาท ปิดที่ 146.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,033.44 ล้านบาท ปิดที่ 276.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท