นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้น่าจะบวกได้ต่อ เพราะปัจจัยต่างประเทศเป็นบวก ตลาดหุ้นสหรัฐยังปรับตัวขึ้นต่อ ทิศทางตลาดต่างประเทศน่าจะเป็นบวกช่วงนี้ ปัจจัยลบที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ในแง่ของต่างประเทศตลาดปรับตัวซึมซับไปค่อนข้างมาก สิ่งต่างๆ หรือความเห็นที่ออกมาในช่วงนี้ไม่ได้ถึงขั้นมีอะไรที่เป็นลบรุนแรง โดยตลาดต่างประเทศมีการขยับขึ้นทางด้านบวก อย่างไรก็ตามก็ยังไม่ได้ทิ้งความผันผวนของตลาดหุ้นที่เกิดขึ้น
ส่วนเรื่องราคาน้ำมันแม้ว่าเมื่อวานของสหรัฐจะลดลงเล็กน้อยแต่ระหว่างการซื้อขายถือว่าผันผวนค่อนข้างมากเพราะช่วงของการแกว่งตัวของราคาน้ำมันค่อนข้างจะกว้าง เพราะมีทั้งการขายทำกำไรและซื้อกลับ อย่างไรก็ตาม ถือว่ายังปิดทรงตัวระดับสูง
"2 ปัจจัยตรงนี้ที่มาจากภายนอกไม่ได้มีอะไรเป็นลบในช่วงเช้านี้ ปัจจัยภายในผลประกบการก็ทยอยออกไปหมดในสัปดาห์นี้ แต่อิทธิพลของหุ้นรายตัวต่อผลประกอบการยังมีอยู่"นายอนุพนธ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ถ้าตลาดมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาก็น่าจะเป็นหุ้นใหญ่ที่ฟื้นตัว ขณะที่ต่างชาติก็ซื้อสุทธิกลับเข้ามาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา น่าจะมีส่วนหนุนตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้อยู่
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(14 ธ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,992.66 จุด เพิ่มขึ้น 94.28 จุด(+0.73%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,423.57 จุด เพิ่มขึ้น 14.91 จุด(+1.06%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,533.73 จุด เพิ่มขึ้น 37.03 จุด (+1.48%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 667.52 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 124.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.10 ดอลลาร์
- นายกรัฐมนตรี ระบุ แนวโน้มจะปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพียงตำแหน่งเดียว จากที่นายสุธา ชันแสง ขอลาออกจากตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนกรณีของนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข และนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ รอดูผลของกระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายก่อน แต่หากมีการตัดสินใจเร็วกว่านั้นก็อาจปรับ ครม.ไปพร้อมกันทั้ง 3 ตำแหน่ง
- 'หอการค้าไทย' เผยผลสำรวจนักธุรกิจต่างชาติในไทย ชี้ชัดปัจจัยการเมืองบั่นทอนความเชื่อมั่น ฉุดการลงทุนชะงักลากยาวถึงปีหน้า ระบุเวียดนามน่าสนใจลงทุนมากกว่าไทย ประธานหอการค้าต่างประเทศแนะรัฐบาลเร่งใช้ประโยชน์ความเป็นประชาธิปไตย สร้างเอกภาพในรัฐฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุน 'ธนวรรธน์' จี้รัฐเร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพประชาชน หลังพบดัชนีความเชื่อมั่นลดครั้งแรกรอบ 6 เดือน
- กขช.ไฟเขียว 'พาณิชย์' ซื้อข้าวเปลือกเจ้า-เหนียวจากชาวนา สั่งธ.ก.ส.ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้อคส.จัดซื้อ คาดใช้เงิน 1-2 หมื่นล้านบาท 'ยรรยง' เน้นซื้อข้าวเหนียว ชี้ราคาข้าวเจ้าสูงกว่าราคาประกัน สมาคมชาวนาอัดรัฐกำหนดราคาประกันต่ำ ฉุดกลไกตลาดบิดเบือน เผยข้าวธงฟ้าถูกพ่อค้ากว้านซื้อไม่ถึงมือคนจน ปชป.จี้ 'มิ่งขวัญ' แจงออเดอร์ข้าว 6.7 ล้าน
ตัน ซัดข้าวถุงหากินกับคนจน 'มิ่งขวัญ' ยันโปร่งใส
- แบงก์ใจดีขึ้นค่าครองชีพให้พนักงานรายเดือน ทหารไทยจ่ายสูงสุด 1,200 บาท ส่วนธนชาตจ่ายเพิ่มอีก 1,000 รวมของเดิมเป็น 2,000 บาท ด้านแบงก์กรุงเทพจ่ายเงินช่วยเหลือเฉพาะกาล 1 เท่าของเงินเดือน และเพิ่มให้อีก 1,000 บาท ขณะที่ปูนซิเมนต์ไทยจ่ายเงินเพิ่มให้กับพนักงาน 600 บาทต่อเดือน
- รมว.คลังชี้ไทยยังไม่พร้อมตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เหตุเงินทุนสำรองยังมีไม่มากขณะเดียวกันยังขาดความพร้อมด้านบุคลากรที่จะเป็นผู้บริหารกองทุน 'ธีระชัย' ชี้เริ่มต้นจากเงินทุน 10,000 ล้านดอลลาร์เพื่อไปหาผลตอบแทนที่สูงกว่าเดิม
- คลังเผย 7 เดือนแรกปีงบ 2551 ขาดดุลเงินสด 1.96 แสนล้านยันเป็นไปตามเป้านโยบายการคลังแบบขาดดุล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ 5.0-6.0%
- 'ประดิษฐ์' มั่นใจยอดจัดเก็บรายได้กรมสรรพากรปีนี้เกินเป้ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ชี้สะท้อนการดำเนินนโยบายรัฐบาลมาถูกทางและภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ด้านอธิบดีสรรพากรเผย ยอดขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงถึง 1.4 หมื่นล้านบาท แต่เหลือยอดที่ยังไม่คืนอีกกว่า 9 พันล้านบาทจาก 1 แสนราย มั่นใจเคลียร์ให้แล้วเสร็จภายใน มิ.ย.นี้
- รมว.พลังงาน คาดว่า ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) รอบใหม่(มิ.ย.-ก.ย.51) มีโอกาสที่จะปรับลดลงได้ เนื่องจากงบลงทุนของหน่วยงานด้านไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งต่ำกว่าแผนงาน ซึ่งกำหนดไว้ในปี 49-50 ทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าลดลง 10.7 สตางค์ต่อหน่วย
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--