SET ปิดวันนี้ 1,460.64 จุด ลดลง 9.68 จุด (-0.66%) มูลค่าซื้อขาย 54,423.95 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยปรับลงรับ Sentiment ลบในต่างประเทศหลังโพลชี้คะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ "ทรัมป์" นำ "แฮร์ริส" กังวลการปรับลดดอกเบี้ยอาจน้อยกว่าคาด โดย Bond Yield ค่อยๆ ขยับสูงขึ้น เก็งจากนี้ถึงก่อนวันเลือกตั้งอาจมีแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นสหรัฐต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับลงตาม รวมถึงค่าเงินภูมิภาครวมบาทก็อ่อนค่า พรุ่งนี้ให้กรอบแนวรับ 1,455 จุด แนวต้าน 1,475-1,480 จุด
SET ปิดวันนี้ 1,460.64 จุด ลดลง 9.68 จุด (-0.66%) มูลค่าซื้อขาย 54,423.95 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวลง และท้ายชั่วโมงร่วงทำจุดต่ำสุด 1,458.67 จุด และจุดสูงสุด 1,476.58 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 176 หลักทรัพย์ ลดลง 281 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 204 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดฟุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง เนื่องจากผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐล่าสุดนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีมีตะแนนนำ 51% ขณะที่ คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ได้ 49% ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐมีแรงขายทำกำไรออกมาระหว่างรอติดตามผลการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย.นี้
โดยหากทรัมป์ชนะเลือกตั้ง อาจทำให้มุมมองของการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปลี่ยนไป โดยนับจากเดือน พ.ย.67-ธ.ค.68 หรือ 14 เดือน Dot Pot คาดลดดอกเบี้ย 1.25-1.50% อาจปรับลงมาเหลือ 1.00-1.25% เห็นได้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี (Bond Yield) ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาที่ 4.2% ในปัจจุบันและคาดว่าอาจขึ้นไปถึง 4.5-4.6%
และหากคะแนนเสียงของทรัมป์ทิ้งห่างก็ยากที่ Fund Flow จะกลับเข้ามา โดยค่าเงินในภูมิภาคเอเชียอ่อนค่าลง เงินบาทเองก็กลับมาอ่อนค่า ฉะนั้น ตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะยังอิงตลาดต่างประเทศในช่วง 2 สัปดาห์นี้
นายศราวุธ กล่าวว่า ฝั่งกองทุนรวมถึงวายุภักษ์ก็ไม่ฝืน ไม่เข้าไปดันดัชนี รอย่อตัวแล้วค่อยซื้อ เพราะไม่จำเป็นต้องไล่ซื้อ โดยวันนี้กลุ่มโรงไฟฟ้า ยกเว้น GULF ปรับตัวลง โดยเฉพาะ BGRIM และ GPSC ลงแรง รับ Sentiment ดอกเบี้ยสหรัฐอาจปรับลดไม่มากเท่าที่เคยคาด อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรป เปิดตลาดบ่ายนี้รีบาวด์ขึ้นมา อาจเห็นตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ได้ในสัปดาห์หน้า หากพรุ่งนี้ดัชนีไม่หลุด 1,455 จุด
ให้กรอบแนวรับที่ 1,455 จุด แนวต้านที่ 1,475-1,480 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,481.18 ล้านบาท ปิดที่ 113.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,358.26 ล้านบาท ปิดที่ 149.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,023.47 ล้านบาท ปิดที่ 135.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,022.01 ล้านบาท ปิดที่ 125.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,003.33 ล้านบาท ปิดที่ 275.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง