นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าสถานการณ์ภาพรวมตลาดการลงทุนในปัจจุบันจะมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่เศรษฐกิจโลกก็ยังคงมีแนวโน้มทิศทางที่ดีขึ้นจากหลายปัจจัย อาทิ การลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2567 ของหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งอยู่ เป็นต้น ดังนั้น การกระจายลงทุนในกองทุนรวมผสมในสินทรัพย์คุณภาพดีทั่วโลก จึงเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวจากทุกสภาวะตลาด
บริษัทฯ จึงได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Moderate เพื่อการเลี้ยงชีพ (KTWC Moderate RMF) สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 24 ? 31 ตุลาคม 2567 นี้ โดยสามารถลงทุนได้ผ่าน บลจ.กรุงไทย และธนาคารกรุงไทย รวมถึงแอปพลิเคชัน Next และ KTAM Smart Trade
KTWC Moderate RMF (ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุน และสามารถรับความผันผวนระหว่างทางได้ โดยกองทุนมีกรอบการลงทุนเฉลี่ยระยะยาวที่จะลงทุนในตราสารหนี้ 50% หุ้น 50% (สัดส่วนการลงทุนสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน)
ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม และ/หรือกองทุนรวม ETF ในต่างประเทศ ที่มีการลงทุนทั้งในตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ทรัพย์สินทางเลือก เงินฝาก หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก นอกจากนี้ อาจลงทุนในกองทุน Infra และ/หรือ กองทุน Property และ/หรือหน่วย Private Equity ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนอย่างน้อยตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยบริษัทจัดการจะมอบหมายให้ FIL Investment Management (Hong Kong) Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Fidelity International เป็นผู้รับมอบหมายงานด้านการจัดการลงทุน โดยไม่รวมในส่วนการลงทุนเพื่อสภาพคล่อง
โดยจุดเด่นของ KTWC Moderate RMF มาจากโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาด ด้วยการจัดพอร์ตการลงทุนแบบเบ็ดเสร็จ พร้อมทั้งมีการกระจายความเสี่ยงและบริหารความเสี่ยงโดยการควบคุมความผันผวนของพอร์ตการลงทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ด้วยกระบวนการลงทุนที่นำมาใช้ประกอบด้วยวิธีการหลากหลายเข้าด้วยกัน อิงจากการวิเคราะห์อย่างละเอียดตามขั้นตอน ด้วย 3 กระบวนการหลัก ได้แก่ 1) การออกแบบ (Design) จากการกำหนดสัดส่วนการลงทุนในระดับยุทธศาสตร์ โดยให้ความสำคัญกับกระบวนการและผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนในระยะยาว 2) การคัดเลือก (Select) ผ่านกลยุทธ์และเครื่องมือในการลงทุนผ่านกระบวนการที่เข้มงวด โดยใช้การวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งการวิเคราะห์เชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ และ 3) ปรับปรุง (Adjust) ด้วยการปรับสัดส่วนการลงทุนไปตามสภาวะตลาด (Tactical Asset Allocation) โดยใช้การวิจัยและมุมมองเชิงมหภาค ผสมผสานทั้งการลงทุนในระยะสั้น กลาง และยาวให้เหมาะสม
นอกจากนี้ นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกลุ่มกองทุน KTWC Series (ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5) ทั้งชนิดสะสมมูลค่า (A) และชนิดเพื่อการออม (SSF) ที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ก็สามารถเลือกลงทุนในกลุ่มกองทุน KTWC Series ได้ตามความเสี่ยงที่รับได้ของตนเอง โดยปัจจุบันได้รับการตอบรับจากนักลงทุนด้วยยอดเงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท
ซึ่งทั้ง 3 กองทุน ประกอบด้วย 1) กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Defensive (KTWC-DEFENSIVE) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ* 2)กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Moderate (KTWC-MODERATE) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง* และ 3) กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Growth (KTWC-GROWTH) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง* (หมายเหตุ *ไม่ใช่ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ตามผลประเมิน Suitability)
"เราเห็นโอกาสจากปัจจัยสนับสนุนตลาดในหลายๆ ปัจจัย รวมถึงโอกาสการสร้างผลตอบแทนจาการลงทุนระยะยาวในกองทุนผสมในทุกสภาวะตลาด จึงได้เปิดขาย KTWC Moderate RMF เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้แก่นักลงทุนที่ต้องการลงทุนพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากกลุ่มกองทุน RMF ประกอบกับความเชี่ยวชาญระดับโลกด้านการลงทุนในการจัดการพอร์ตโฟลิโอของ Fidelity International ร่วมกับเครือข่ายที่กว้างขวาง และเข้าใจความต้องการของนักลงทุนอย่างแท้จริงของ บลจ.กรุงไทย และธนาคารกรุงไทย จึงทำให้สามารถเข้าถึงสินทรัพย์การลงทุนได้อย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น ซึ่งกองทุนนี้จะเป็นตัวช่วยเสริมพอร์ตให้แกร่งพร้อมรักษาวินัยการลงทุนระยะยาว เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตยามเกษียณได้" นางชวินดา กล่าว