นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเริ่มซื้อขายในกระดาน SET ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.67 เป็นต้นไป ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อขยายฐานนักลงทุนให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อย และกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
"รู้สึกยินดีที่ได้เห็น MASTER เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของเราที่นำหุ้น MASTER ย้ายเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ซึ่งบทพิสูจน์ความสำเร็จตั้งแต่ ที่ MASTER เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงระยะเวลาปีกว่าที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นภาพของการเติบโตทางธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ ด้วยแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) ที่เป็นส่วนเข้ามาช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาดและ MASTER มีเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนคู่ตลาดหุ้นไทย" นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว
น.ส.ลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER กล่าวว่า บริษัทฯ วางแผนที่จะเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะ Regional Company โดยการย้ายเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ SET ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น หลังมองเห็นศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเดินสายให้ข้อมูลกับกองทุนขนาดใหญ่ในต่างประเทศ (โรดโชว์) อย่าง สิงคโปร์ และฮ่องกง ซึ่งกองทุนมีความสนใจในธุรกิจ MASTER อย่างมาก โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/67 พบกองทุนไทยถือหุ้นใน MASTER คิดเป็นสัดส่วน 12% ขณะที่กองทุนต่างชาติถือหุ้นใน MASTER สัดส่วน 3% เพิ่มขึ้นจาก 1% ในช่วงต้นปี 66
ส่วนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงวางเป้าหมายรายได้เติบโต 20% จากปีก่อน โดยเน้นเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) จากการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและเป็นกิจการระดับแนวหน้าในแต่ละภูมิภาค โดยใช้จุดแข็งทางด้านระบบและการจัดการ ผนึกกำลังสร้างโอกาสการเติบโตร่วมกัน ภายใต้กลยุทธ์ Cross Boder-Cross Selling และ Cross Synergy ซึ่งถูกออกแบบให้เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวและรองรับการเติบโตของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดว่าจะมีโอกาสเห็น M&P เพิ่มเติมอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 67 คาดเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในไตรมาส 4/67 บริษัทฯ คาดเป็นไปตามอัตราการเติบโตของหัตถการ ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประกอบกับเห็นยอดการใช้จ่ายต่อบิลของลูกค้าต่างชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นอีก 10-15% สอดคล้องกับการบริหารจัดการในด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ และกลับไปยังระดับเดิม เข้ามาช่วยสนับสนุนด้านการเติบโตของ MASTER ให้ดียิ่งขึ้น
ขณะที่เริ่มเข้าสู่ช่วง High season จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในต่างประเทศที่มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจากอินโดนีเซีย เมียนมา กัมพูชา และลาว คาดช่วยหนุนสัดส่วนรายได้ลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 25.85% แล้ว ผ่านการขยายตลาด และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในระดับภูมิภาค
บริษัทฯ ยังตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ลูกค้าต่างประเทศเพิ่มเป็น 40% ในปี 68 จากการขยายฐานลูกค้าต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาขยายธุรกิจไปในประเทศอินโดนีเซีย โดยมีความสนใจไปตั้งโรงพยาบาล คาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนในไตรมาส 2/68 ซึ่งจะเป็นการลงทุนขยายธุรกิจในต่างประเทศครั้งแรก